นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ตลาดปริวรรตเงินตรากำลังเผชิญกับการเก็งกำไรในขณะนี้ ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงพื้นฐานทางเศรษฐกิจ พร้อมกับเตือนว่าการเก็งกำไรส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยน และทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงมากเกินไป
"เราจะติดตามการเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เงินเยนอ่อนค่ามากเกินไป โดยรัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมด" นายซูซูกิแถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในวันนี้
ทั้งนี้ นายซูซูกิกล่าวว่า มีหลากหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเงินเยน เช่น การตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ, ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่น, ความผันผวนของตัวเลขเงินเฟ้อ, ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเก็งกำไรของนักลงทุนในตลาด
"ผมเชื่อว่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อไม่นานมานี้ เกิดจากการเก็งกำไร ซึ่งที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาจากทั้งเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อ" นายซูซูกิกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นปีซีรายงานว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบและประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งถือเป็นการยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (ultra-loose monetary policy) ที่ดำเนินการมานานเป็นสิบปีเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ดี เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการที่ BOJ ให้คำมั่นว่าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐนั้น ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง
การอ่อนค่าของเงินเยนจะเอื้อประโยชน์ต่อการส่งออกของญี่ปุ่น เนื่องจากทำให้สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นมีราคาถูกลงเมื่อนำไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศและทำให้รายได้ในรูปเงินเยนในต่างประเทศมีมูลค่าสูงขึ้นด้วย แต่การอ่อนค่าของเงินเยนทำให้สินค้าที่นำเข้าสู่ญี่ปุ่นมีราคาแพงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานมากกว่า 90% ของความต้องการใช้พลังงาน