นักกลยุทธ์ด้านปริวรรตเงินตราคาดการณ์ว่า ทางการญี่ปุ่นอาจตั้งเป้าหมายให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น 5 เยนต่อดอลลาร์ หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นหลายคนต่างก็ออกมาเตือนถึงผลกระทบของการเก็งกำไรค่าเงินเยน หลังจากเงินเยนดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินเยนได้อ่อนค่าลงจนเลยระดับที่ทางการญี่ปุ่นเคยเข้าแทรกแซงตลาดในปี 2565 แล้ว
นายยูจิโระ โกโตะ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านค่าเงินญี่ปุ่นจากบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าวว่า "หากทางการญี่ปุ่นใช้เม็ดเงินหลายล้านล้านเยนเข้าแทรกแซงตลาดเหมือนกับที่เคยทำในปี 2565 ก็อาจหมายความว่าญี่ปุ่นต้องการทำให้เงินเยนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นราว 4-5 เยนต่อดอลลาร์"
นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการป้องกันไม่ให้เงินเยนเคลื่อนไหวมากจนเกินไป และได้เน้นย้ำในวันนี้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการที่เหมาะสมโดยไม่ตัดทางเลือกใด ๆ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางกลุ่มในตลาดไม่มั่นใจว่าการแทรกแซงดังกล่าวจะสามารถรักษาเงินเยนให้แข็งค่าได้เป็นเวลานานหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นและสหรัฐที่ปรับตัวกว้างขึ้น และเป็นปัจจัยกดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลง
การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 นั้น แทบไม่ได้ทำให้ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสองประเทศปรับตัวแคบลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอยู่ในระดับสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นประมาณ 3.5 จุดเปอร์เซ็นต์
โกลด์แมนแซคส์ประมาณการว่า ญี่ปุ่นมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 1.15 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนก.พ. โดยในจำนวนนี้มีสกุลเงินดอลลาร์อยู่ประมาณ 1.75 แสนล้านดอลลาร์ที่ทางการญี่ปุ่นสามารถนำไปใช้ในการแทรกแซงตลาดได้โดยไม่ต้องขายหลักทรัพย์ระยะยาว
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ใช้เงินไปแล้วว่า 9 ล้านล้านเยน (5.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการแทรกแซงตลาดจำนวน 3 ครั้งในช่วงเดือนก.ย.และต.ค. 2565 โดยในการแทรกแซงตลาดครั้งแรกนั้น เงินเยนแข็งค่าขึ้นกว่า 5 เยนต่อดอลลาร์ แตะที่ระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 140.36 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดของวัน