อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันกลับมาดำเนินงานอีกครั้งและบุคลากรหน่วยฉุกเฉินไต้หวันเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและประชาชนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ในขณะที่ไต้หวันเริ่มกระบวนการฟื้นฟูเมือง หลังเผชิญเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.)
ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันและเป็นผู้ผลิตชิปให้กับแอปเปิ้ล อิงค์และอินวิเดีย คอร์ป ระบุว่า TSMC จะกลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้งในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังอพยพพนักงานและระงับการผลิตจากผลพวงของเหตุแผ่นดินไหว ขณะเดียวกัน TSMC ระบุว่า อุปกรณ์ผลิตชิปที่สำคัญที่สุดไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีในไต้หวันช่วยให้ไต้หวันสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายและการบาดเจ็บเสียชีวิตครั้งรุนแรงได้หลังเกิดแผ่นดินไหว 7.4 แมกนิจูดขึ้นบริเวณชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันเมื่อวานนี้ โดยรัฐบาลไต้หวันได้แก้ไขบทบัญญัติอาคารหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2542 ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 2,400 ราย
แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้สร้างความเสียหายมากเพียงใด แต่ล่าสุดตรวจพบผู้เสียชีวิต 9 รายและบาดเจ็บกว่า 1,000 ราย ขณะที่มีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเกือบ 100 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคนงานเหมืองแร่กว่า 60 ราย
ไต้หวันมีบทบาทสำคัญอย่างมากในเศรษฐกิจโลก เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ในไต้หวันเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในเทคโนโลยีสำคัญต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), สมาร์ตโฟน และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) โดยกลุ่มบริษัทผลิตชิปในไต้หวันซึ่งนำโดย TSMC ผลิตชิประดับไฮเอนด์ที่สุดประมาณ 80-90% ของโลก
TSMC เปิดเผยเมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อวานนี้ว่า บริษัทได้กลับมาเปิดใช้งานเครื่องจักรเพื่อผลิตชิปแล้ว 70-80% ภายในเวลา 10 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยอุปกรณ์ราคาแพงที่สุดของ TSMC คือเครื่องจักรรังสีอัลตราไวโอเลตขั้นสูง (extreme ultraviolet) จากอาเอสเอ็มแอล โฮลดิง เอ็นวี (ASML Holding NV) ซึ่งใช้ในการผลิตหน่วยประมวลผลสำหรับ iPhone รุ่นล่าสุดให้แอปเปิ้ลและผลิตชิปให้กับอินวิเดียเพื่อใช้ในการฝึกโมเดล AI เช่น แชตจีพีที (ChatGPT)
"เครื่องมือสำคัญต่าง ๆ เช่น เครื่องจักรลิโทกราฟีรังสีอัลตราไวโอเลตขั้นสูงทั้งหมดของเรา ไม่ได้รับความเสียหาย" TSMC ระบุในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ พร้อมระบุเสริมว่า มีเครื่องมือเพียงเล็กน้อยที่ได้รับความเสียหายในโรงงานบางแห่ง แต่บริษัทกำลังเร่งระดมทรัพยากรทั้งหมดเพื่อรับประกันว่าจะสามารถฟื้นฟูการดำเนินงานได้อย่างเต็มที่
ส่วนบริษัทยูไนเต็ด ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป (UMC) ระบุว่า จะกลับมาดำเนินงานและจัดส่งชิปตามปกติอีกครั้ง พร้อมระบุว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการดำเนินงาน โดยเมื่อวานนี้ UMC ได้ระงับการใช้งานเครื่องจักรบางตัวที่โรงงานบางแห่งและอพยพพนักงานออกจากโรงงานหลายแห่งที่ศูนย์ของบริษัทในเมืองซินจู๋และไถหนาน
ส่วนบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ของไต้หวันยังคงประเมินความเสียหายของแผ่นดินไหวดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์เตือนว่า การระงับการผลิตใด ๆ จะสร้างความเสี่ยงต่อกระบวนการผลิตที่ต้องการการดำเนินงานแบบต่อเนื่องในสภาวะพิเศษเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
"ชิประดับไฮเอนด์บางชนิดต้องอาศัยการดำเนินงานแบบต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงในสภาวะพิเศษเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ดังนั้นการระงับการดำเนินงานในภาคอุตสาหกรรมทางภาคเหนือของไต้หวันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อการผลิตชิปไฮเอนด์" นายบอม กีซอนและนายไบรอัน ถาน นักวิเคราะห์ระบุ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป อิงค์ระบุว่า ผลกระทบด้านการดำเนินงานของ TSMC นั้นอยู่ในระดับที่จัดการได้ ส่วนนักวิเคราะห์ของเจฟฟรีส์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ระบุว่า ปัญหาครั้งนี้จะอยู่ในวงจำกัดเท่านั้น
"ต้องขอบคุณที่มีการแก้ไขบทบัญญัติอาคารอย่างเต็มที่หลังเกิดแผ่นดินไหวในอดีต ส่งผลให้เกิดอันตรายขึ้นในวงจำกัด แม้ว่าจะเป็นบริเวณจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวก็ตาม" นักวิเคราะห์ระบุ