กรมทหารวิศวกรรมสหรัฐ (US Army Corps of Engineers - USACE) ระบุในวันพฤหัสบดี (5 เม.ย.) ว่าจะเปิดช่องทางใหม่ให้กับท่าเรือบัลติมอร์ของรัฐแมริแลนด์ภายในสิ้นเดือนเม.ย. เพื่อให้เรือพาณิชย์เริ่มกลับมาขนส่งสินค้าได้อีกครั้งหลังจากถูกปิดกั้นนับตั้งแต่เกิดเหตุสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) ถล่มเมื่อวันอังคารที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา และจากนั้นจะฟื้นฟูทางเข้าท่าเรือแห่งนี้จนสามารถเปิดใช้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นเดือนพ.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ช่องทางหลักของท่าเรือบัลติมอร์ถูกปิดกั้นจากซากปรักหักพังนับตั้งแต่วันที่เรือต้าหลี่ซึ่งบรรทุกตู้สินค้าเต็มลำได้สูญเสียการควบคุมจนชนเข้ากับสะพานฟรานซิส ซึ่งทำให้คนงานซ่อมถนนเสียชีวิต 6 รายและทำให้สะพานแห่งดังกล่าวถล่มลงไปในแม่น้ำปาแทปสโก
USACE ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมรับมือภัยพิบัติบัลติมอร์ ประกาศแผนการนี้หนึ่งวันก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐจะเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยระบุว่า ภายในเวลา 4 สัปดาห์จะสามารถเปิดช่องทางดังกล่าวให้เรือบางส่วนที่ขนส่งยานยนต์และอุปกรณ์การเกษตรสัญจรผ่าน
ข้อมูลจากรัฐแมริแลนด์ระบุว่า ท่าเรือบัลติมอร์ติดอันดับหนึ่งในสหรัฐในด้านปริมาณการรองรับรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก รวมถึงเครื่องจักรด้านการเกษตรและการก่อสร้าง แต่การขนส่งผ่านท่าเรือบัลติมอร์ถูกระงับเกือบทั้งหมดนับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว แม้จะมีการกลับมาดำเนินงานท่าเรือบางส่วนนอกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้วก็ตาม
"USACE คาดการณ์ว่าจะเปิดการเข้าถึงเส้นทางสัญจรผ่านท่าเรือบัลติมอร์แบบจำกัด โดยเปิดช่องทางเดินเรือกว้าง 280 ฟุตและลึก 35 ฟุตภายในช่วง 4 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งก็คือภายในสิ้นเดือนเม.ย." USACE ระบุ
นอกจากนี้ USACE ระบุว่าจะกลับมาเปิดการเข้าถึงท่าเรือบัลติมอร์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเปิดช่องทางกาเดินเรือกว้าง 700 ฟุตและลึก 50 ฟุต