นายริชาร์ด คู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยโนมูระให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จีนจำเป็นต้องโน้มน้าวให้ประชาชนในประเทศเชื่อว่า ราคาบ้านจะแพงขึ้นเพื่อสนับสนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนการวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ความต้องการกู้เงินก้อนใหม่ในกลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคจีนตกต่ำลงในช่วงต้นปีนี้ ขณะที่ราคาบ้านในเดือนม.ค.ปรับตัวลงเร็วกว่าในเดือนก.พ.
นายคูเตือนในปีที่ผ่านมาว่า จีนอาจกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบ Balance Sheet Recession ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับสิ่งที่ญี่ปุ่นเผชิญในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
"เพื่อให้ธุรกิจและผู้บริโภคกลับมากู้เงินอีกครั้ง เราต้องโน้มน้าวให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ราคาบ้านได้มาถึงจุดต่ำสุดแล้ว และนับจากนี้ไปราคาบ้านจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น" นายคูระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าแท้จริงแล้วราคาบ้านในจีนแตะจุดต่ำสุดแล้วหรือไม่ แต่นายคูและนักวิเคราะห์รายอื่น ๆ ระบุว่า ในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบายของจีน ราคาบ้านไม่ได้ปรับตัวลดลงมากอย่างที่คาดการณ์ เมื่อพิจารณาในแง่มุมอื่น ๆ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน
เจ้าหน้าที่จีนระบุว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศยังคงอยู่ในช่วงเวลาของการปรับปรุง ขณะเดียวกันจีนได้เน้นย้ำว่าปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ของจีนคือ ภาคการผลิตและพลังงานใหม่
อนึ่ง Balance sheet recession คือภาวะเศรษฐกิจถดถอยรูปแบบหนึ่งที่ปรากฏขึ้นเมื่อระดับหนี้สูงในภาคเอกชนทำให้ประชาชนหรือบริษัทมุ่งความสนใจไปที่การประหยัดเพื่อนำเงินไปชำระหนี้แทนที่จะนำเงินไปใช้จ่ายหรือลงทุน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอการเติบโต