เศรษฐีมะกันแห่ขอพาสปอร์ตเล่มที่สอง หวังปกป้องเสถียรภาพทางการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 11, 2024 10:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส (Henley & Partners) ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านสิทธิความเป็นพลเมืองของกลุ่มผู้มีสินทรัพย์สูงจากอังกฤษ ระบุว่า ตระกูลคนรวยชาวอเมริกันดำเนินการขอสัญชาติที่ 2 และสิทธิในการพักอาศัยในต่างประเทศเพื่อเป็นวิธีป้องกันความเสี่ยงทางการเงินของพวกเขา

บรรดาเศรษฐีพยายามเพิ่มหนังสือเดินทางเล่มที่ 2 หรือแม้กระทั่งเล่มที่ 3 และ 4 เผื่อเกิดกรณีที่พวกเขาจำเป็นต้องอพยพครอบครัวหนีออกจากประเทศบ้านเกิด โดยเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส ระบุว่า ปัจจุบันชาวอเมริกันมีความพยายามในการขอสิทธิ์ในการพำนักในต่างประเทศหรือเพิ่มสัญชาติมากที่สุดเมื่อเทียบกับคนจากประเทศอื่น ๆ

"สหรัฐยังเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่และหนังสือเดินทางของสหรัฐยังคงยอดเยี่ยม" นายโดมินิก โวเลก หัวหน้ากลุ่มฝ่ายลูกค้าบุคคลรายใหญ่ของเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์สระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า "แต่ถ้าผมร่ำรวย ผมย่อมจะหาวิธีป้องกันความเสี่ยงและความไม่แน่นอน โดยกลุ่มคนมั่งคั่งเข้าใจเรื่องกระจายความเสี่ยงในสิ่งที่พวกเขาลงทุนเป็นอย่างดี การมีสัญชาติเดียวหรือมีสถานที่พำนักเพียงแห่งเดียวเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล หากผมมีความสามารถในการสร้างความหลากหลายในด้านดังกล่าว"

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กลุ่มคนร่ำรวยที่เพิ่งขอสัญชาติที่ 2 ไปเมื่อไม่นานมานี้ได้แก่ นายปีเตอร์ ธีล นักลงทุนเทคโนโลยีมหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่เพิ่งได้สัญชาตินิวซีแลนด์เป็นสัญชาติที่ 2 และนายเอริก ชมิดต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารกูเกิลที่ดำเนินการขอสัญชาติไซปรัส

เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์สระบุว่า จุดหมายปลายทางต้น ๆ ที่มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเลือกขอหนังสือเดินทางเล่มเสริมคือ โปรตุเกส, มอลตา, กรีซ และอิตาลี โดยโปรแกรม "วีซ่าทองคำ" (Golden Visa) ของโปรตุเกสได้รับความนิยมเป็นพิเศษนับตั้งแต่โปรตุเกสเปิดให้ชาวต่างชาติขอสิทธิในการพักอาศัยและสัญชาติ พร้อมฟรีวีซ่าในการเดินทางในยุโรป แลกกับการลงทุน 500,000 ยูโร (ประมาณ 541,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ในกองทุนหรือหุ้นนอกตลาด ส่วนมอลตาเสนอวีซ่าทองคำให้กับผู้ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นเงิน 300,000 ยูโร ซึ่งนายโวเลกกล่าวว่า เงื่อนไขดังกล่าวทำให้มอลตากลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมพิเศษในกลุ่มชาวอเมริกัน

"การได้สัญชาติมอลตาทำให้คุณกลายเป็นพลเมืองยุโรป ซึ่งมีสิทธิโดยสมบูรณ์ในการตั้งรกรากในทุกพื้นที่ของยุโรป ดังนั้นคุณสามารถอาศัยอยู่ในเยอรมนี ลูกของคุณสามารถเรียนในฝรั่งเศสและคุณมีสิทธิ์จะใช้ชีวิต ทำงาน และศึกษาทั่วทวีปยุโรป"

ยอดการอพยพของเศรษฐีทั่วโลกมีแนวโน้มแตะระดับนิวไฮในปี 2567 เนื่องจากสงคราม, การปราบปรามคนรวยของรัฐบาล และความไม่แน่นอนทางการเมืองกดดันให้คนรวยย้ายไปอยู่ประเทศอื่น ๆ มากขึ้น โดยเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์สประเมินว่า จะมีเศรษฐี 128,000 รายย้ายไปอยู่ประเทศใหม่ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 120,000 รายในปี 2566 และเพิ่มขึ้นจาก 51,000 รายในปี 2556

รายงานระบุว่า สหรัฐยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งสำหรับเศรษฐีทั่วโลกที่ย้ายออกจากประเทศอื่น ๆ โดยมีเศรษฐีย้ายเข้าสหรัฐสุทธิ 2,200 รายในปี 2566 และคาดการณ์ว่าจะย้ายเข้าสหรัฐ 3,500 รายในปีนี้

จีนยังคงเป็นประเทศที่มีเศรษฐีอพยพออกมากที่สุด โดยสูญเสียเศรษฐีไปสุทธิ 13,500 รายในปีที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ