สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า เทสลา (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ เตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 10% ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนหลังยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง
นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา เปิดเผยในบันทึกที่ส่งถึงพนักงานว่า การเลิกจ้างครั้งนี้น่าจะกระทบราว 14,000 ราย จากพนักงานทั้งหมด 140,473 ราย
ทั้งนี้ เว็บไซต์อิเล็กเทร็ค (Electrek) ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า รายงานข่าวดังกล่าวเป็นเจ้าแรก โดยทางเทสลายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ
นายอีลอน มัสก์ ระบุในอีเมลว่า "ในขณะที่เราผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า เราจำเป็นต้องพิจารณาบริษัทในทุกแง่มุมเพื่อหาโอกาสในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต" โดยการที่เทสลาเติบโตอย่างมากทำให้ตำแหน่งงานและหน้าที่บางส่วนเกิดความซ้ำซ้อน
ข้อความดังกล่าวระบุว่า "เราได้พินิจพิจารณาองค์กรอย่างละเอียดถี่ถ้วน และสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจอันแสนยากลำบากในการลดจำนวนพนักงานของเราลงกว่า 10% ทั่วโลก" และเพิ่มเติมว่า "สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีความคล่องตัว มีนวัตกรรม และเร่งไขว่คว้าโอกาสในการเติบโตในระยะต่อไป"
ยอดขายของเทสลาได้ร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการแข่งขันดุเดือดทั่วโลก ขณะที่การลดราคาก็ไม่ได้ช่วยดันยอดขายได้มากนัก โดยเทสลาเปิดเผยตัวเลขการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1/67 ที่ระดับ 433,371 คัน ส่วนการส่งมอบรถยนต์อยู่ที่ระดับ 386,810 คัน
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการผลิตและการส่งมอบรถยนต์ทั้งหมดของเทสลาในไตรมาส 1/67 ต่ำกว่าไตรมาส 4/66 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 494,989 คันและ 484,507 คันตามลำดับ และต่ำกว่าไตรมาส 1/66 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 440,808 คันและ 422,875 คัน
ขณะเดียวกัน ยอดการส่งมอบรถยนต์ของเทสลาในไตรมาส 1/67 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 457,000 คัน