แคปเจมิไน (Capgemini) บริษัทที่ปรึกษาจากฝรั่งเศส เปิดเผยรายงานในวันนี้ (17 เม.ย.) ว่า บริษัทประกันวินาศภัยทั่วโลกเผชิญภาวะขาดทุนในระดับที่น่ากังวลจากการรับประกันภัยในปี 2565 อันเนื่องมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่โมเดลการจัดการความเสี่ยงยังคงล้าหลัง
รายงานระบุว่า การขาดทุนจากการรับประกันภัยสำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลกทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจากภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น พายุฤดูหนาว เป็นต้น ขณะที่แหล่งข่าวมองว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการก่อสร้างอาคารในพื้นที่เสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นคือปัจจัยที่ทำให้เกิดการขาดทุนดังกล่าว
แคปเจมิไน ระบุว่า อัตราส่วนรวมทั่วโลก (Global Combined Ratio) ซึ่งเป็นมาตรวัดการขอเคลมประกันและการใช้จ่ายเทียบกับรายได้จากค่าเบี้ยประกัน อยู่ที่ 103% ในปี 2565 โดยตัวเลขสูงกว่า 100 บ่งชี้ว่าเกิดการขาดทุนจากการรับประกัน และบริษัทประกันวินาศภัยทั่วโลกประสบปัญหาขาดทุนจากการรับประกันเป็นเวลา 3 ปี ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า มีผู้บริหารบริษัทประกันเพียง 27% ในผลสำรวจที่เชื่อว่าบริษัทของตนมีศักยภาพด้านการคาดการณ์ล้ำสมัย
"การคาดการณ์ความเสี่ยงและกำหนดราคาที่แม่นยำกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นและนำไปสู่ความวิตกกังวลด้านความสามารถในการรับทำประกัน" อเนียร์บัน โบส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจกลยุทธ์การให้บริการทางการเงินของแคปเจมิไน ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รายงานฉบับนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากตลาดการประกันภัย 18 แห่ง เช่น อังกฤษ ฮ่องกง อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ผ่านการสำรวจลูกค้าประกัน รวมถึงการสัมภาษณ์ผู้บริหารธุรกิจประกันและผู้รับประกัน