นายอามีร์ ฮัมซาห์ อาซิซาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียไม่วิตกเกี่ยวกับการแข่งขันกับจีนและสหรัฐ ขณะที่กำลังผลักดันประเทศไปสู่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับไฮเอนด์
นายอาร์มี ฮัมซาห์กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ณ กรุงวอชิงตันในวันพุธ (17 เม.ย.) ว่า "อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และมาเลเซียจะได้รับประโยชน์"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า มาเลเซียไม่ได้มองว่าจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศในปัจจุบัน เป็นคู่แข่งในอุตสาหกรรมนี้ โดยระบุว่า "ผมคิดว่าอุตสาหกรรมนี้เติบโตเพียงพอสำหรับทุกฝ่าย ดังนั้น ทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์" พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ล่าสุดได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ห่วงโซ่อุปทานจะยังคงต้องแข็งแกร่ง
"เราได้เห็นผู้ใช้งานขั้นปลายน้ำจำนวนมากกำลังเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทาน จุดมุ่งหมายแท้จริงของเราคือการเสนอการเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะเดินหน้าต่อไปได้" นายอามีร์ ฮัมซาห์กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในการแข่งขันกับสหรัฐนั้น มาเลเซียดูเหมือนจะได้ประโยชน์จากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มความหลากหลายในการดำเนินงานด้านเซมิคอนดักเตอร์ โดยในขณะนี้มาเลเซียกำลังมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนจากการเป็นผู้ผลิตส่วนท้ายสุดของการผลิตในห่วงโซ่อุปทานชิป และเริ่มการผลิตห่วงโซ่อุปทานที่มีมูลค่ามากขึ้น
องค์กรพัฒนาการลงทุนแห่งมาเลเซีย (MIDA) เปิดเผยในรายงานเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ว่า มาเลเซียครองสัดส่วน 13% ของตลาดโลกด้านการบรรจุ ประกอบ และทดสอบบริการด้านชิป ขณะที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมความพยายามในการขยายระบบนิเวศด้านเซมิคอนดักเตอร์และดึงดูดการลงทุน