นายเจมส์ แบรดี รองประธานฝ่ายให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองจากบริษัท Teneo เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางการญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะร่วมมือกันในการแทรกแซงตลาดปริวรรเงินตราเพื่อสกัดการอ่อนค่าของสกุลเงินในประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ
นักลงทุนในตลาดการเงินต่างก็จับตาความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยน หลังจากเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเงินเยนดิ่งหลุดจากระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์นับแตั้งแต่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.แต่ยังส่งสัญญาณดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงิน ขณะที่เงินวอนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ระดับ 1,389.5 วอนต่อดอลลาร์ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างก็มองว่า ค่าเงินมีการเคลื่อนไหวมากจนเกินไป
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ตระหนักถึงความกังวลของรัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้หลังจากค่าเงินของทั้งสองประเทศร่วงลงอย่างหนัก โดยกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า สหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้ตกลงกันว่าทั้ง 3 ประเทศจะจับตาพัฒนาในการตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวของสหรัฐทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะแทรกแซงตลาดโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ
ทั้งนี้ นายแบรดีกล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้สอดคล้องกับที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เคยร่วมมือกันในระดับลึกเมื่อไม่นานมานนี้ ดังนั้นตลาดควรจะคาดการณ์ว่าทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันแทรกแซงตลาดโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นดังกล่าวของกระทรวงการคลังสหรัฐ"
"สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การร่วมมือกันในการแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินนั้น เป็นการหวังผลทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยหากการแทรกแซงตลาดประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนเงินเยนและเงินวอนให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แต่หากการแทรกแซงตลาดของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ผลกระทบเชิงบวกจะเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้นเท่านั้น"นายแบรดีกล่าว