ตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และอินเดียที่จะเปิดเผยในวันนี้
-- ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวแห่งประเทศจีน (CENC) ระบุว่า เมื่อเวลา 08.04 น.ในวันนี้ (23 เม.ย.) ตามเวลาจีน ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูดเขย่าเทศมณฑลฮวาเหลียนของไต้หวัน
ทั้งนี้ ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ละติจูด 23.87 องศาเหนือ และลองจิจูด 121.59 องศาตะวันออก โดยมีระดับความลึกที่ 10 กิโลเมตร
-- นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสกล่าวว่า อิสราเอลเป็นต้นเหตุที่ทำให้การเจรจาหยุดยิงประสบความล้มเหลว หลังปฏิเสธที่จะถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา
"แม้ว่ามีการเจรจาหลายครั้งผ่านทางคนกลางของเรา แต่พวกไซออนนิสต์ยังคงไม่ยอมตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการคืนตัวประกันเพื่อให้พวกเขายังคงทำสงครามได้ต่อไป ซึ่งสิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้น" นายฮานิเยห์กล่าว
-- ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อิงค์ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐปิดตลาดนิวยอร์กวานนี้ (22 เม.ย.) ร่วงลง 3.40% หลังบริษัทประกาศลดราคารถยนต์ในหลายประเทศ ท่ามกลางการทำสงครามราคากับคู่แข่งจากจีน
ทั้งนี้ เทสลาประกาศปรับลดราคาจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐ จีน ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเพื่อกระตุ้นยอดขายที่ลดลง
นอกจากนี้ ราคาหุ้นเทสลายังถูกกระทบจากการที่บริษัทเรียกคืน Cybertruck จำนวน 3,878 คันในสหรัฐ เนื่องจากมีปัญหาคันเร่งค้าง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.
กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.
-- นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.5% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือนก.พ.
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก Judo Bank, ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก Jibun Bank, สิงคโปร์เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB), เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB), อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB), อังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และสหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. และดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์