นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 หลังจีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1/2567 อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์มองเห็นสัญญาณมากขึ้นที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนจะต้องดิ้นรนเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด
นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 4.8% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้าที่ 4.6% และขยับเข้ามาใกล้เป้าหมายซึ่งรัฐบาลจีนวางเอาไว้ที่ราว 5%
ด้านตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อล่าสุดต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงอ่อนแอหลังเกิดวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.6% ในปี 2567 ชะลอลงจาก 0.8% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน คาดว่าจะลดลงเฉลี่ย 0.6% ในปี 2567 ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มต้นปีด้วยความแข็งแกร่งเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ต่างชาติต้องการสินค้าที่ผลิตในจีน รวมถึงการที่รัฐบาลจีนส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง อย่างไรก็ตาม การบริโภคเริ่มปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค. และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็รุนแรงขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2567 และอาจจำเป็นต้องมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
"ภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำที่เกี่ยวข้อง กำลังเผชิญกับการหดตัวในวงกว้าง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและอุปสงค์โดยรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง" เนี่ย เหวิน หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคของฮวาเป่า ทรัสต์ (Hwabao Trust) กล่าว "ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการลงทุนจากภาครัฐอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาเสถียรภาพหรือกระตุ้นอุปสงค์"