ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ (26 เม.ย.) ได้ตอกย้ำถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และปรับตัวขึ้น 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยเมื่อต้นปีนี้ก็ถูกปรับขึ้นเล็กน้อย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่น่าเป็นห่วงถึง 3 เดือนติดต่อกันบ่งชี้ว่า ความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของเฟดได้หยุดชะงัก และบ่งชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะถูกเลื่อนออกไปอีก
บรรดานักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1-2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. แต่ก็มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า เฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเลยในปีนี้
เบน เอเยอร์ส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเนชันไวด์กล่าวว่า "ข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงจนถึงเดือนมี.ค.จะลดโอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567"
"ยังมีความเสี่ยงที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจะเลื่อนการลดอัตราดอกเบี้ยออกไปจนถึงปี 2568 ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงด้านลบที่สำคัญสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า"