รายงานจากองค์กร NGO ของนอร์เวย์ Framtiden i vaare hender (แปล่วา "อนาคตอยู่ในมือเรา") ระบุในวันนี้ (29 เม.ย.) ว่า กองทุนความมั่งคั่งของนอร์เวย์ มูลค่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศได้ตามที่ตั้งไว้ โดยล้มเหลวในการสนับสนุนข้อเสนอจากผู้ถือหุ้นหลายข้อที่ผลักดันให้บริษัทน้ำมันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทุนดังกล่าวเป็นเงินกองกลางของรัฐบาลนอร์เวย์สำหรับรายได้ที่มาจากการผลิตน้ำมันและก๊าซ โดยตั้งแต่ปี 2565 กองทุนฯ มีเป้าหมายให้บริษัทกว่า 9,000 แห่งที่กองทุนฯ ลงทุนทั่วโลก บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งสอดคล้องกับความตกลงปารีส
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ดังกล่าว นอร์เกส แบงก์ อิสเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ (NBIM) ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนฯ ได้กำหนดความคาดหวังต่อคณะกรรมการบริษัทในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และออกเสียงลงคะแนนในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีในประเด็นนี้
NBIM ระบุว่า พวกเขามีส่วนร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ในหลายวิธี รวมถึงการลงคะแนนเสียงในข้อเสนอของผู้ถือหุ้น และในกรณีร้ายแรง NBIM ก็สามารถถอนทุนจากบริษัทที่ไม่ตอบสนองตามเป้าหมายนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานจากองค์กร NGO ระบุว่า กองทุนฯ กำลังล้มเหลวในเป้าหมายดังกล่าว
รายงานดังกล่าววิเคราะห์ประวัติการโหวตของกองทุนฯ ในปีที่แล้วสำหรับมติด้านสภาพภูมิอากาศ 16 ข้อของบริษัทน้ำมันรายใหญ่ 9 แห่ง อาทิ บีพี, เชลล์, โททาลเอนเนอร์ยี่ส์, เชฟรอน และเอ็กซอนโมบิล โดยพบว่า กองทุนฯ สนับสนุนมติดังกล่าว 7 ข้อ ส่วนอีก 9 ข้อที่เหลือนั้น กองทุนกลับเลือกสนับสนุนกลยุทธ์ที่กลุ่ม NGO ระบุว่า "เป็นอันตรายต่อสภาพภูมิอากาศ"
"บางครั้ง NBIM ก็คัดค้านมติสำคัญของผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศในการประชุมสามัญประจำปี ความไม่สอดคล้องกันระหว่างกลยุทธ์การดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศของ NBIM กับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงที่เกิดขึ้นจริง เป็นสัญญาณถึงช่องโหว่ในการดำเนินการที่น่าเป็นห่วง" รายงานระบุ
นอกจากนี้ NBIM ยังโหวตคัดค้านมติด้านสภาพภูมิอากาศทั้งหมดในการประชุมสามัญประจำปีของบริษัทน้ำมันรายใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ บีพี, เชลล์, โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ และมาราธอน ซึ่งถูกระบุโดย CA100+ (โครงการที่ริเริ่มโดยนักลงทุน เพื่อสนับสนุนให้บรรดาบริษัทที่ปล่อยมลพิษมากที่สุด แก้ปัญหาการปล่อยมลพิษของตัวเอง) ว่าเป็นบริษัทที่ล้มเหลวในความพยายามแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
"การที่ NBIM ไม่สนับสนุนมติด้านสภาพภูมิอากาศตามเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ระหว่างประเทศ บั่นทอนบทบาทของ NBIM ในฐานะผู้ดูแลการเงินที่ยั่งยืน" รายงานระบุ