แอร์บัส (Airbus) บริษัทผลิตเครื่องบินของยุโรปได้บรรลุข้อตกลงกับพนักงานที่ทำการผลิตเครื่องบินลำแคบรุ่น A220 ในแคนาดา หลังจากที่พวกเขามีมติเห็นชอบตามคำแนะนำของคนกลางในการเจรจา โดยสามารถหลีกเลี่ยงการล็อกเอาต์ (lockout) ได้อย่างฉิวเฉียด โดยการล็อกเอาต์คือ การปิดงานโดยนายจ้างปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกจ้างทำงานเป็นชั่วคราว อันเนื่องมาจากข้อพิพาทด้านแรงงาน และไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง
ด้านผู้ไกล่เกลี่ยที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลควิเบกของแคนาดาได้ยื่นข้อเสนอในวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งรวมถึงการขึ้นค่าจ้างรวมทั้งสิ้น 23% ในอีก 5 ปีข้างหน้าและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ
สหภาพแรงงานซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดสมาคมช่างเครื่องและคนงานการบินและอวกาศนานาชาติ (International Association of Machinists and Aerospace Workers) ระบุในแถลงการณ์ว่า พนักงานของสหภาพได้ยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ เมื่อเย็นวานนี้ (1 พ.ค.) ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ 77% โดยมีพนักงานลงคะแนนเสียงราว 81%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การปฏิเสธข้อเสนออาจจุดชนวนให้เกิดการล็อกเอาต์ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ (2 พ.ค.) ที่โรงงานผลิตในเขตมิราเบลซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองมอนทรีออล โดยสหภาพเป็นตัวแทนของพนักงาน 1,300 คนจาก 3,000 คนที่อยู่ในโรงงานในเขตมิราเบลแห่งนี้
นายเอริค แรนคอร์ต โฆษกของสหภาพแรงงานระบุในแถลงการณ์ว่า "แม้ผลลัพธ์จะเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่การเจรจาในครั้งนี้ก็สร้างความไม่พอใจไม่น้อยเช่นกัน"
ทั้งนี้ โครงการเครื่องบิน A220 ซึ่งผลิตในแคนาดา มีแอร์บัสถือหุ้น 75% และอินเวสทิสเมนต์ ควิเบก (Investissement Quebec) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการเงินของแคนาดาถือหุ้นอยู่ 25% ผ่านห้างหุ้นส่วนจำกัด (LP) โดยกระทรวงเศรษฐกิจควิเบกระบุว่า ควิเบกได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 1.3 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (947 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่มูลค่าตลาดของโครงการดังกล่าวได้ลดลงสู่ระดับ 300 ล้านดอลลาร์แคนาดาในปีที่แล้ว