ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) ของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ (2 พ.ค.) ว่า กำไรก่อนหักภาษีในไตรมาส 1/2567 เพิ่มขึ้น 5.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นช่วยหนุนรายได้ของธนาคาร
สแตนชาร์ตซึ่งเป็นธนาคารที่มุ่งเน้นทำธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ระบุว่า กำไรก่อนหักภาษีสำหรับไตรมาส 1/2567 แตะที่ 1.91 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ 1.81 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ขณะที่นักวิเคราะห์ 13 รายคาดการณ์โดยเฉลี่ยว่า กำไรก่อนหักภาษีอาจอยู่ที่ 1.39 พันล้านดอลลาร์
"เรามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2567 โดยรายได้เติบโตในระดับเลขสองหลักและประสิทธิภาพในการดำเนินงานเป็นไปในเชิงบวก" นายบิล วินเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสแตนชาร์ตระบุ
"เรายังคงมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินของเรา และยังคงตัวเลขคาดการณ์สำหรับตลอดทั้งปี 2567"
อย่างไรก็ดี แม้ผลกำไรรายไตรมาสจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ฐานะการเงินของธนาคารย่ำแย่ลงในปี 2567 โดยต้องตัดหนี้เสียถึง 165 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2567 เมื่อเทียบกับ 20 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566
ทั้งนี้ สแตนชาร์ตขาดทุนรวม 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยได้รับผลกระทบการถือหุ้นในธนาคารโบไห่ แบงก์ (Bohai Bank) ของจีน ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว รวมถึงวิกฤตที่รุนแรงจากภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน