นักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่งกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มประเทศยูโรโซน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ECB มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เว้นแต่จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อีกทั้งตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดยิ่งหนุนให้มีการเร่งปรับลดต้นทุนการกู้ยืม
ส่วนเฟดเพิ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ (1 พ.ค.) โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ระบุว่า "ขาดความคืบหน้าเพิ่มเติม" ในการดึงอัตราเงินเฟ้อให้กลับลงมาสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า คาดว่าจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีข้อมูลที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงหลังการประชุมเดือนมี.ค.และม.ค.
ทั้งนี้ ท่าทีดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเฟด
นายแดเนียล ลาคาลล์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท Tressis Gestion ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Street Signs Europe" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ว่า หาก ECB เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเฟด จะถือเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าเงินยูโรต้องอ่อนค่าลง และหากเงินยูโรอ่อนค่าลง จะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าของยูโรโซนสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้การเติบโตของยูโรโซนยากลำบากยิ่งขึ้น