Electrek ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีรายงานเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวว่า เทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐได้ทำการปลดพนักงานในแผนกซอฟต์แวร์, บริการ และวิศวกรรม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ เทสลาภายใต้การนำของนายอีลอน มัสก์ ได้ยุติการดำเนินงานแผนกชาร์จรถ EV ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เทสลาประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะทำการปลดพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10%
ตามรายงานของ Electrek เทสลาได้ส่งอีเมลแจ้งพนักงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการปลดพนักงานครั้งใหญ่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว เทสลาได้ประกาศว่าจะปลดพนักงานกว่า 6,700 คนจากสาขาต่าง ๆ ในรัฐเท็กซัส, รัฐแคลิฟอร์เนีย, รัฐเนวาดา และรัฐนิวยอร์ก
ทั้งนี้ เทสลากำลังประสบปัญหาเนื่องจากยอดขายรถยนต์ลดลง และสงครามราคากับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ รุนแรงขึ้น นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นยังทำให้ผู้คนชะลอการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมาใช้รถ EV อีกด้วย
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เทสลามีแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติ รถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) และหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ของเทสลาที่ชื่อว่าออปติมัส (Optimus) ดังนั้น นายมัสก์อาจลดค่าใช้จ่ายของบางทีมลงเพื่อเก็บเงินไว้สำหรับพัฒนาโปรเจกต์เหล่านี้
เมื่อเดือนที่แล้ว เทสลาคาดว่าจะบันทึกต้นทุนกว่า 350 ล้านดอลลาร์สำหรับการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งส่งผลให้สูญเสียผู้บริหารระดับสูงหลายคน รวมไปถึงนายดรูว์ แบกลิโน, นายโรฮาน พาเทล, นางรีเบกกา ตินุชชี และนายแดเนียล โฮ
นอกจากนี้ เทสลายังได้ประกาศในเดือนที่แล้วว่า กำลังพัฒนารถรุ่นใหม่โดยใช้แพลตฟอร์มและสายการผลิตที่มีอยู่เดิม ซึ่งวิธีการนี้น่าจะช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมรายจ่ายฝ่ายทุน (Capital expenditure) ได้ดีมากขึ้น