จอห์นสัน แอสโซซิเอทส์ (Johnson Associates) บริษัทด้านค่าตอบแทนในภาคบริการทางการเงินรายงานเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ว่า พนักงานบริษัทต่าง ๆ ในวอลล์สตรีทมีแนวโน้มได้รับโบนัสเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นทำผลงานได้ดีและกิจการธนาคารเพื่อการลงทุนฟื้นตัวขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอรายงานดังกล่าวโดยระบุว่า นายธนาคารเพื่อการลงทุนที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถจัดหาเงินทุนผ่านการออกตราสารหนี้ คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับการปรับเพิ่มโบนัสสูงที่สุดในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 15%-25% เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ออกตราสารหนี้ได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อบริษัทต่าง ๆ เริ่มกลับมาเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) อีกครั้ง ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ก็มีแนวโน้มที่จะได้โบนัสเพิ่มขึ้น 10%-20% ในปีนี้
นายอลัน จอห์นสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทจอห์นสัน แอสโซซิเอทส์กล่าวว่า "เกือบทุกกลุ่มในวอลล์สตรีทกำลังปรับขึ้นค่าตอบแทน ปีนี้ควรจะเป็นปีที่ดี แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการเลือกตั้งในสหรัฐและความขัดแย้งในระดับโลกก็ตาม"
แม้ว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่สวัสดิการจูงใจในกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนยังคงห่างไกลจากจุดสูงสุดในปี 2564 โดยนายจอห์นสันกล่าวว่า กลุ่มเดียวที่ค่าตอบแทนสูงกว่าระดับในปี 2564 คือไพรเวทอิควิตี้ (Private equity) แต่พนักงานในบริษัทเหล่านี้มีจำนวนน้อยกว่าในธนาคารอย่างมาก
เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายมากขึ้น โบนัสสำหรับเทรดเดอร์ตราสารหนี้จึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10%-20% ส่วนเทรดเดอร์หุ้นคาดว่าจะได้โบนัสเพิ่มขึ้น 5%-15%
ด้านฝ่ายบริหารที่ทำงานด้านการบริหารความมั่งคั่งคาดว่าจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 5%-10% ขณะที่พนักงานบริษัทจัดการสินทรัพย์และกองทุนเฮดจ์ฟันด์คาดว่าจะได้รับโบนัสเพิ่มขึ้น 5%
ในแวดวงการจัดการสินทรัพย์ แม้ว่าลูกค้าจะหันไปใช้ผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบพาสซีฟที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า แต่ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 ก็ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการและผลกำไรในธุรกิจด้านนี้