ธนาคารยูบีเอส (UBS) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐจะเริ่มอยู่ในทิศทางที่อ่อนแรงลง โดยจะเริ่มจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันที่ 15 พ.ค.นี้
UBS ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลงนั้น มาจากต้นทุนที่อยู่อาศัยและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง
โซลิตา มาร์เชลลี นักวิเคราะห์ของ UBS กล่าวว่า เราคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะลดลงอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และคาดว่าดัชนี CPI เดือนเม.ย.จะสะท้อนถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเงินเฟ้อ"
ส่วนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.4% จากระดับ 3.2% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.8% ในเดือนก.พ.