ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ขยับลงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ (13 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 07.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลง 14 จุด หรือ -0.04% แตะที่ระดับ 39,628 จุด
ทั้งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันที่ 14 พ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 พ.ค.
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. หลังจากลดลง 1% ในเดือนมี.ค.
ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าหน้าประตูโรงงาน ลดลง 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย. หลังจากลดลง 2.8% ในเดือนมี.ค.
-- เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง ไม่ควรลดดอกเบี้ยปีนี้ โดย นางมิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เธอไม่คิดว่าจะเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ และระบุถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงหลายเดือนแรกของปีนี้
ทางด้านนางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวสุนทรพจน์ที่นิวออร์ลีนส์ในวันศุกร์ว่า "ยังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเงินเฟ้อที่น่าผิดหวังในปีนี้"
ส่วนนายออสแตน กูลสบี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวในงานอีเวนต์ที่จัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งมินนิโซตาเมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่เห็นหลักฐานมากนักที่บ่งบอกว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ลังเลที่จะระบุว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อใด
-- นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปแนะ "เพิ่มน้ำหนัก" (overweight) การลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย จากเดิมที่ "คงน้ำหนักการลงทุน" (neutral) โดยระบุถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย
ซิตี้กรุ๊ปคาดว่า ดัชนี NSE Nifty 50 ของอินเดีย จะปรับตัวขึ้น 7% ระหว่างนี้ไปจนถึงสิ้นปีงบการเงินปัจจุบันในเดือนมี.ค. 2568 โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 23,900 จุด
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 พ.ค.) ดัชนี Nifty 50 ปิดที่ระดับ 22,055.20 จุด
ทั้งนี้ มุมมองของซิตี้ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจของอินเดียซึ่งเติบโตเร็วที่สุดในบรรดาประเทศอื่น ๆ ที่สำคัญนั้น จะยังคงแข็งแกร่งโดยจะขยายตัว 6.8% ในปีงบประมาณปัจจุบัน
-- คณะลูกขุนในเพนซิลเวเนียสั่งให้เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil) บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ จ่ายเงิน 725.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.7 หมื่นล้านบาท) ให้กับอดีตช่างเครื่องรายหนึ่งที่อ้างว่าสารเคมีที่เป็นพิษในน้ำมันเบนซินและตัวทำละลายของบริษัทเอ็กซอนทำให้เขาเป็นมะเร็ง
ทนายความของฝ่ายโจทก์ระบุว่า คำตัดสินด้วยคะแนนเสียง 10 ต่อ 2 เสียงมีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) ภายหลังการพิจารณาคดีในศาลของรัฐในฟิลาเดลเฟีย ซึ่งนายพอล กิลล์ วัย 67 ปี อดีตช่างเครื่องกล่าวหาว่า เขาได้สัมผัสกับสารเบนซิน (benzene) ในผลิตภัณฑ์ของเอ็กซอนโมบิล โดยสัมผัสทางผิวหนังและการสูดดม ขณะทำงานอยู่ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งระหว่างปี 2518 ถึง 2535 และในปี 2562 เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย
-- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนเปิดเผยว่า จีนส่งออกรถยนต์รวม 504,000 คันในเดือนเม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก 34% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยจีนคาดหวังที่จะขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่สุดของโลก
ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน โดยส่งออกรวม 1.827 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 33.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
-- นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเปิดเผยว่า เทสลาจะใช้เงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อขยายเครือข่ายการชาร์จเร็วสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเขาได้ออกมาเปิดเผยเพียงไม่กี่วันหลังจากที่มีการเลิกจ้างพนักงานอย่างกะทันหัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังจากการเลิกจ้างพนักงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมัสก์กล่าวว่า เทสลาวางแผนที่จะขยายเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเจอร์ แต่ในอัตราที่ชะลอลงสำหรับสถานที่แห่งใหม่ ๆ
-- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและการเกษตรของสหรัฐให้คำมั่นว่า ทางการสหรัฐจะจัดสรรเงินเกือบ 200 ล้านดอลลาร์ในการใช้จ่ายครั้งใหม่และความพยายามอื่น ๆ เพื่อช่วยติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในโคนมของสหรัฐที่แพร่กระจายไปยังฝูงโคนมมากกว่า 40 ฝูงใน 9 รัฐ
กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐระบุว่า เงินทุนใหม่นี้รวมงบ 101 ล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินงานต่อไปเพื่อป้องกัน ทดสอบ ติดตาม และรักษาสัตว์และมนุษย์ที่อาจได้รับผลกระทบจากไวรัส H5N1 ชนิด A
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยออสเตรเลียจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนเม.ย.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ขณะที่อินเดียมีกำหนดเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. และสหรัฐเปิดเผยการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนเม.ย.