ทางการจีนกำลังเรียกร้องให้กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีนใช้ชิปท้องถิ่นในการผลิตรถยนต์สูงสุด 25% ภายในปี 2568 ในขณะที่จีนพยายามสร้างซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์ที่เน้นพึ่งพาตนเองและแข่งขันได้ ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความร้อนแรงขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐ
สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนได้ขอให้กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ เช่น เอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor), บีวายดี (BYD), ตงฟง มอเตอร์ส (Dongfeng Motor), จีเอซี มอเตอร์ (GAC Motor) และเอฟเอดับบลิว กรุ๊ป (FAW Group) เพิ่มการจัดซื้อชิปที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เป็น 20%-25% ภายในปีหน้า และมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิปท้องถิ่นสูงกว่าเป้าหมายเบื้องต้นในอนาคต
รายงานระบุว่า จีนเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยในแต่ละปีสามารถจำหน่ายรถยนต์ในจีนได้กว่า 30 ล้านคัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของยอดขายรถยนต์โลก แต่การใช้ชิปรถยนต์ท้องถิ่นคิดเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 10% เท่านั้น
แหล่งข่าวระบุว่า ข้อเสนอแนะให้จัดซื้อชิปรถยนต์ท้องถิ่นดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อบังคับ แต่การใช้ระบบให้รางวัลหรือเครดิตจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว โดยเป้าหมาย 20%-25% ดังกล่าวหมายถึงทั้งจำนวนชิปต่อรถยนต์หนึ่งคันและสัดส่วนของมูลค่าการจัดซื้อทั้งหมด
"รัฐบาลจีนมีเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน โดยคาดหวังว่าในท้ายที่สุดจะใช้ชิปท้องถิ่นในการผลิตรถยนต์ได้ทั้งหมด" แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุ
ขณะเดียวกันจีนยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มการจัดซื้อชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อื่น ๆ เช่น กล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (electronic control unit), จอแสดงผล, ระบบจัดการความร้อน และระบบชาร์จรถไฟฟ้า