นายโกห์ ชุน ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์เปิดเผยวันนี้ (16 พ.ค.) ว่า แม้ดีมานด์การเดินทางทางอากาศจากจีนยังจะไม่ได้หวนคืนสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่นโยบายยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่า (visa-free) สำหรับพลเมืองชาวจีนที่จะเดินทางมายังสิงคโปร์ช่วยให้สายการบินมีผู้เดินทางเพิ่มมากขึ้น และทางสายการบินจะเพิ่มการรองรับผู้โดยสารจากจีนมากขึ้นในปีนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การรับรองผู้โดยสารของภาคการบินทั่วโลกหวนคืนสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาดแล้วในปีนี้ แต่การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินเอเชียยังคงล่าช้า เนื่องจากดีมานด์การเดินทางไปต่างประเทศของจีนยังซบเซา
นายฟงแถลงต่อสื่อมวลชนว่า "การเดินทางขาเข้าของจีนยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่การเดินทางขาออกของจีนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่" พร้อมเสริมว่า นโยบายยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าระหว่างจีนและสิงคโปร์ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือนก.พ. ช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้กับเที่ยวบินจีน
นายฟงระบุว่า สายการบินกำลังเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจากจีน และจะเพิ่มที่นั่งให้กับเที่ยวบินไปยังเซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง และกว่างโจวในปีนี้
อย่างไรก็ดี นางฟงกล่าวว่า สายการบินได้ระงับเที่ยวบินเดือนเม.ย. ไปยังเมืองเฉิงตู ฉงชิ่ง และเซี่ยเหมินของจีน โดยอ้างว่าไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่ได้กลับมาให้บริการอีกครั้งแล้วจนถึงเดือนก.ค. หลังจากนั้นจะต้องขอการอนุมัติรอบใหม่
ทั้งนี้ สิงคโปร์ แอร์ไลน์สรายงานผลกำไรประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) แต่กำไรสุทธิของสายการบินหดตัวลงราว 4.5% ในไตรมาส 1/2567 เมื่อเทียบรายปี และกำไรลดลงใน 2 ไตรมาสก่อนหน้า