ทางการจีนเปิดเผยในวันพุธ (15 พ.ค.) ว่า นักเดินทางที่เข้าประเทศจีนผ่านเรือสำราญระหว่างประเทศสามารถพำนักในมณฑลที่กำหนดไว้ได้นานสูงสุด 15 วันโดยไม่ต้องมีวีซ่า ขณะที่จีนกำลังพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมเรือสำราญและการท่องเที่ยวของประเทศ
แถลงการณ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน (CNI) ระบุว่า กฎระเบียบดังกล่าวกำหนดไว้สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศจีนผ่านทางท่าเรือสำราญ 1 ใน 13 แห่งของประเทศ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์ที่จัดโดยบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวจีนโดยมีนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 2 คนขึ้นไปและเดินทางออกนอกประเทศด้วยเรือลำเดียวกัน ทั้งนี้ กรุ๊ปทัวร์สามารถเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งหรือมณฑลชายฝั่งอื่น ๆ ได้
CNI กล่าวในแถลงการณ์ว่า "การดำเนินมาตรการยกเว้นวีซ่าขาเข้าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบถือเป็นเสาหลักที่สำคัญในการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจเรือสำราญของจีน และเป็นมาตรการสำคัญในการส่งเสริมการเปิดกว้างในระดับสถาบันของจีน"
สื่อของทางการจีนรายงานว่า ธุรกิจเรือสำราญจีนก้าวหน้าอย่างมากในปีนี้ โดยอะดอรา แมจิก ซิตี (Adora Magic City) เรือสำราญขนาดใหญ่ลำแรกที่จีนต่อขึ้นเอง ได้ออกล่องทะเลครั้งแรกในวันที่ 1 ม.ค.
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เมื่อวันพุธ มีท่าเรือสำราญ 7 แห่งถูกเพิ่มให้เป็นช่องทางขาเข้าที่เข้าเกณฑ์ตามนโยบายการต่อเครื่อง (transit) ปลอดวีซ่าของจีน ซึ่งเพิ่มเติมจาก 31 แห่งที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การต่อเครื่องปลอดวีซ่าดังกล่าวเปิดโอกาสให้พลเมืองจากบางประเทศสามารถพำนักในจีนได้โดยไม่ต้องมีวีซ่านานสุด 144 ชั่วโมง ระหว่างรอต่อเครื่องไปยังประเทศอื่น โดยนอร์เวย์ได้ถูกเพิ่มเข้าไปอยู่ภายใต้นโยบายดังกล่าวในเดือนพ.ย. ทำให้ตอนนี้มีประเทศที่ได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 54 ประเทศ
CNI ระบุว่า นโยบายการเดินทางปลอดวีซ่าครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึง "ความมุ่งมั่นและทัศนคติ" ของจีนต่อ "การเปิดกว้างประเทศต่อโลก" และเป็นก้าวสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้นระหว่างจีนและนานาประเทศ