สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงเนื้อหาในจดหมายที่ธนาคารโลกและกลุ่มผู้บริจาคเงินชาติตะวันตกแจ้งต่อรัฐบาลเวียดนามว่า เวียดนามได้สูญเสียเงินช่วยเหลือจากต่างชาติแล้วอย่างน้อย 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและอาจต้องสูญเสียเงินช่วยเหลือจากต่างชาติอีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากผลพวงของภาวะชะงักงันด้านการบริหาร
รายงานระบุว่า จดหมายฉบับดังกล่าวลงวันที่ 6 มี.ค.และได้ตอกย้ำให้เห็นว่านักลงทุนไม่พอใจเกี่ยวกับอุปสรรคด้านกฎระเบียบและขั้นตอนอันยาวนานที่ส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดเป็นเวลานาน ในขณะที่เวียดนามถูกครอบงำโดยการเดินหน้ากวาดล้างการทุจริตที่ทวีความรุนแรงและความวุ่นวายทางการเมือง
"เงินทุนเพื่อการพัฒนาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่ระหว่างการรออนุมัติ และมีอีก 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถูกส่งคืนเนื่องจากเงินทุนหมดอายุ" เนื้อความในจดหมายที่ส่งถึงนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนามระบุ ซึ่งส่งสัญญาณว่า เวียดนามอาจสูญเสียเงินคิดเป็นเกือบ 1% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
เงินทุนที่หมดอายุอาจทำให้โครงการที่มีความจำเป็นล่าช้าออกไป เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยกลุ่มผู้บริจาคได้เน้นย้ำในจดหมายฉบับดังกล่าวว่า เวียดนามอาจสูญเสียเงินทุนอีกมาก เนื่องจากถูกขัดขวางโดยกระบวนการอนุมัติที่ยืดเยื้อ
รายงานระบุว่า มาตรการต่อต้านการทุจริตขนานใหญ่ในเวียดนามได้ก่อให้เกิดภาวะชะงักงันขึ้น ส่งผลให้ข้าราชการเวียดนามพากันชะลอการอนุมัติหรือดำเนินการขั้นต่อไป เพราะวิตกกังวลว่าจะละเมิดกฎระเบียบที่มีความซับซ้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ