แหล่งข่าวเปิดเผยว่า บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ ได้เผชิญกับปัญหาอุปทานล้นสำหรับชิป AI ขั้นสูงสุดที่พัฒนามาเพื่อลูกค้าในตลาดจีน ทำให้อินวิเดียตัดสินใจปรับลดราคาชิปดังกล่าวลงให้ต่ำกว่าราคาชิปของหัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งจากประเทศจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปรับลดราคาชิปดังกล่าวได้ตอกย้ำให้เห็นว่าธุรกิจในจีนของอินวิเดียกำลังเผชิญความท้าทาย หลังจากสหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกชิป AI และการแข่งขันทางธุรกิจที่ทวีความดุเดือดมากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทบต่ออนาคตของอินวิเดียในตลาดจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 17% ของรายได้สำหรับปีงบการเงิน 2567 ของอินวิเดีย
รายงานระบุว่า แรงกดดันด้านการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในจีนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนอินวิเดียเพิ่มความระมัดระวัง หลังราคาหุ้นอินวิเดียพุ่งทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากบริษัทคาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่งเมื่อวันพุธที่ 22 พ.ค.
อินวิเดีย ซึ่งครองตลาดชิป AI ได้เปิดตัวชิป 3 รุ่นที่ออกแบบมาสำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังการคว่ำบาตรของสหรัฐได้สกัดไม่ให้อินวิเดียส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงที่สุดไปยังจีน
หนึ่งในนั้นคือชิปรุ่น H20 ซึ่งได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดที่สุดและเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดที่อินวิเดียจำหน่ายในจีน แต่แหล่งข่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อินวิเดียกำลังประสบปัญหาอุปทานชิปรุ่น H20 ล้นทะลัก ซึ่งส่งสัญญาณว่าอุปสงค์อ่อนแอ ด้วยเหตุนี้ในบางกรณีอินวิเดียจึงลดราคาชิปรุ่น H20 ลงจนถูกกว่าชิปรุ่น Ascend 910B ของหัวเว่ยถึงกว่า 10% โดย Ascend 910B เป็นชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของหัวเว่ย
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้อินวิเดียพยายามอย่างหนักที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่สามารถปล่อยให้หลุดมือไปได้ แต่แนวโน้มธุรกิจในตลาดจีนกลับไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ซีซีไอดี คอนเซาติง (CCID Consulting) บริษัทวิจัยตลาดของจีน ระบุว่า จีนมีแนวโน้มจะครองส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรม AI โลกมากกว่า 30% ในปี 2578
"อินวิเดียกำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างการรักษาตลาดจีนเอาไว้และหาวิธีจัดการกับความตึงเครียดในสหรัฐ" ฮีบี้ เฉิน นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทไอจี (IG) ระบุพร้อมกล่าวเสริมว่า "อินวิเดียกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดในระยะยาว"