นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซียเปิดเผยในวันนี้ (28 พ.ค.) ว่า มาเลเซียจะทุ่มเม็ดเงินอย่างน้อย 5 แสนล้านริงกิต (1.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ พร้อมวางแผนฝึกอบรมวิศวกรเซมิคอนดักเตอร์ทักษะสูงในประเทศอีก 60,000 คน ในขณะที่มาเลเซียกำลังพยายามยกระดับสถานะในห่วงโซ่อุปทานโลก
ภายใต้แผนยุทธศาสตร์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติที่ได้ประกาศออกมาในวันนี้ มาเลเซียจะจัดสรรเงินสนับสนุนจำนวนอย่างน้อย 2.5 หมื่นล้านริงกิต (5.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในอีก 5-10 ปีต่อจากนี้ เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรมบุคลากรผู้มีความสามารถและการเติบโตของบริษัทในท้องถิ่น โดยเงินทุนก้อนดังกล่าวมาจากกองทุนเพื่อความมั่งคั่งมาเลเซีย เช่น กองทุน คาซานาห์ เนชั่นแนล (Khazanah Nasional)
ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งครองสัดส่วน 13% ของตลาดโลกด้านการบรรจุและทดสอบชิป โดยมาเลเซียได้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงอินเทล (Intel) และอินฟินีออน (Infineon)
นายกฯอันวาร์กล่าวว่า การลงทุนที่มาเลเซียกำลังแสวงหาคือการลงทุนด้านการออกแบบวงจรรวม บรรจุภัณฑ์ขั้นสูง และอุปกรณ์การผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์
นอกจากนี้ นายกฯอันวาร์กล่าวว่า มาเลเซียต้องการก่อตั้งบริษัทในประเทศอย่างน้อย 10 แห่งซึ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบและการบรรจุขั้นสูงสำหรับชิปเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีรายได้อยู่ระหว่าง 210 ล้าน-1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกล่าวเสริมว่า มาเลเซียจะจัดสรรการสนับสนุนทางการเงินจำนวน 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม นายกฯอันวาร์ไม่ได้ระบุระยะเวลาที่แน่ชัดว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวเมื่อใด