ชาวจีนนิยมเดินทางเยือนแหล่งท่องเที่ยวราคาถูกในประเทศมากกว่าแหล่งท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยโอลิเวอร์ ไวแมน (Oliver Wyman) บริษัทให้คำปรึกษาจากสหรัฐ ได้เปิดเผยผลสำรวจในเดือนนี้ว่า มีครอบครัวรายได้สูงที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในปีที่ผ่านมาเพียง 14% วางแผนจะเดินทางเยือนต่างประเทศอีกครั้งในปี 2567 โดยกลุ่มดังกล่าวครอบคลุมครอบครัวในจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีรายได้อย่างน้อย 30,000 หยวนต่อเดือน (4,140 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี)
ผลสำรวจฉบับดังกล่าวระบุว่า เหตุผลหลักที่คนกลุ่มนี้นิยมท่องเที่ยวในประเทศมากกว่าในต่างประเทศคือจีนมีทางเลือกการเดินทางมากมาย ตามมาด้วยการเดินทางต่างประเทศมีราคาแพงเกินไป
โอลิเวอร์ ไวแมน ระบุว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสำหรับการเดินทางในจีนแผ่นดินใหญ่ต่ำกว่า 1,000 หยวน เทียบกับหลายพันหยวนสำหรับการเดินทางเยือนฮ่องกงหรือญี่ปุ่น
การท่องเที่ยวในประเทศอยู่ในจุดสดใสในการฟื้นตัวจากการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2565 โดยทริปดอตคอม (Trip.com) เว็บไซต์จองตั๋วการเดินทาง ระบุว่าในปี 2566 ยอดจองตั๋วเดินทางเยือนแหล่งท่องเที่ยวชนบทในจีนเติบโตขึ้น 2.6 เท่าตัว เทียบกับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเปิดเผยการวิเคราะห์ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ระบุว่า ในช่วงหยุดยาววันแรงงานระหว่างวันที่ 1-5 พ.ค.ที่ผ่านมา ยอดการท่องเที่ยวภายในประเทศและรายได้พุ่งทะยานขึ้น เทียบกับระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดในปี 2562 ส่วนยอดการเดินทางต่างประเทศต่ำกว่าระดับปี 2562 เล็กน้อย
เมืองขนาดเล็กในจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น หยางโจว ลั่วหยาง ฉินหวงเต่า กุ้ยหลิน และจือปั๋ว มียอดจองตั๋วท่องเที่ยวเติบโตเร็วที่สุดในช่วงวันหยุดแรงงานที่ผ่านมา
ในทางกลับกัน ประชาชนในสหรัฐยื่นขอหนังสือเดินทางเพื่อไปต่างประเทศมากเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยสกายสแกนเนอร์ (Skyscanner) ระบุว่า 85% ของนักเดินทางสหรัฐวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้พอ ๆ กับปี 2566 ที่ผ่านมา หรือไม่ก็มากกว่านั้น