หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.16% ปิดที่ระดับ 1,224.40 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพุธ (5 มิ.ย.) ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของอินวิเดียทะยานขึ้นแตะระดับ 3.012 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มาร์เก็ตแคปของอินวิเดียพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และแซงหน้าแอปเปิ้ล (Apple) ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยหุ้นแอปเปิ้ลปิดตลาดปรับตัวขึ้น 0.8% ในวันพุธ และมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 3.003 ล้านล้านดอลลาร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การที่มาร์เก็ตแคปของอินวิเดียพุ่งขึ้นแซงหน้าแอปเปิ้ลสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในซิลิคอน วัลเลย์ ซึ่งครั้งหนึ่งแอปเปิ้ลที่ก่อตั้งโดยนายสตีฟ จ็อบส์ เคยทำผลงานที่โดดเด่นนับตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone ในปี 2550
ส่วนบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังคงครองอันดับ 1 ในฐานะบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลกที่ระดับ 3.15 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากราคาหุ้นไมโครซอฟท์ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 1.9% ในวันพุธ
รายงานระบุว่า อินวิเดียจะทำการแตกหุ้นในอัตราส่วน 10 ต่อ 1 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะทำให้หุ้นอินวิเดียมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วไป
เจค ดอลลาร์ไฮด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทลองโบว์ แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า "อินวิเดียกำลังเก็บเกี่ยวผลกำไรจากกระแสความนิยมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในขณะนี้ โดยบริษัทหลายแห่ง เช่น แอปเปิ้ลและเมตาต่างก็ใช้จ่ายเงินไปกับ AI ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะทำให้อินวิเดียมีโอกาสแซงหน้าไมโครซอฟท์ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก"