-- สำนักงานของนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ประกาศเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) ว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ตอบรับคำเชิญให้กล่าวปราศรัยในการประชุมร่วมของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 ก.ค.
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐและคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ได้บรรลุข้อตกลงเตรียมเปิดฉากสอบสวนปมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft), โอเพนเอไอ (OpenAI) และอินวิเดีย (Nvidia) อาจมีการผูกขาดตลาดอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI)
-- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสเตือนว่า ธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐอย่างน้อย 6 แห่งที่ปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (Commercial Real Estate) มีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
-- นายวิลเลียม หลี่ ซีอีโอของนีโอ (Nio) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติจีน เปิดเผยในการประชุมผลประกอบการเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ว่า บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจไปยังตะวันออกกลางในปีนี้ และน่าจะเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ภายในสิ้นปีนี้
-- หุ้นเกมสต็อป (GameStop) พุ่งขึ้นเกือบ 50% เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากที่ "รอริง คิตตี้" (Roaring Kitty) อินฟลูเอนเซอร์หุ้นชื่อดัง ได้โพสต์บนยูทูบ (YouTube) ประกาศเตรียมไลฟ์สดในคืนวันศุกร์นี้ (7 มิ.ย.)
-- หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานในวันนี้ (7 มิ.ย.) ว่า คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาเสนอแนะให้หน่วยงานด้านการเงินลงโทษธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์อีก 2 แห่ง ฐานแบ่งปันข้อมูลภายในของลูกค้าโดยไม่ได้รับการยินยอม
-- อาลีบาบา กรุ๊ป บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน กำลังเร่งขยายกิจการทั่วโลก โดยเปิดตัวบริการใหม่ ๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐและยุโรป
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (7 มิ.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ฮ่องกงวางแผนยุติการปิดตลาดหุ้นในช่วงที่มีสภาพอากาศเลวร้าย เริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.นี้เป็นต้นไป โดยจะเปิดให้มีการซื้อขายได้ตามปกติในสภาพอากาศดังกล่าว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำที่อื่น ๆ ทั่วโลก
-- บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปสัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 30% ในเดือนพ.ค. แตะที่ระดับ 2.296 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการฟื้นตัวของอุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท
-- แอนโธรพิก (Anthropic) และอาซานา (Asana) ได้เผยแพร่รายงานสถานะ AI ในที่ทำงานฉบับใหม่ประจำปี 2567 เมื่อวันพุธ (5 มิ.ย.) ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นของพนักงาน 5,007 คนในสหรัฐและอังกฤษ เกี่ยวกับมุมมองในการนำ AI มาใช้ในสถานที่ทำงาน
ผลการสำรวจพบว่า มีพนักงานมากกว่า 25% กังวลว่าพวกเขาจะถูกมองว่า "ขี้เกียจ" เมื่อใช้เครื่องมือ AI โดยที่อีกประมาณ 23% กล่าวว่า พวกเขากลัวที่จะถูกตราหน้าว่า "โกง" จากการใช้ AI ในที่ทำงาน และอีกหนึ่งในสามกังวลว่า AI จะมาแทนที่มนุษย์โดยสิ้นเชิง