ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (13 มิ.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25%-5.5% และเปลี่ยนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ จากเดิมที่มีแผนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เฟดมีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งรวม 1% ในปี 2568 ซึ่งมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่จะปรับลด 3 ครั้ง
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวานนี้ (12 มิ.ย.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 7 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
-- บิตคอยน์พุ่งขึ้นใกล้ทะลุระดับ 70,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 22.56 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 3.45% สู่ระดับ 69,687.50 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
-- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเรียกเก็บภาษีพิเศษต่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีการนำเข้าจากจีน โดยระบุว่ารถยนต์ดังกล่าวได้รับประโยชน์อย่างมากจากการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน และถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตรถยนต์ EV ในยุโรป
ทั้งนี้ EC ประกาศเรียกเก็บภาษีพิเศษต่อยานยนต์ไฟฟ้าระบบแบตเตอรี (BEV) ที่มีการนำเข้าจากจีน นอกเหนือจากการเรียกเก็บภาษี 10% ในปัจจุบัน โดยบริษัท SAIC จะถูกเรียกเก็บภาษีพิเศษ 38.1% ขณะที่บริษัท Gleely ถูกเรียกเก็บ 20% และบริษัท BYD ถูกเรียกเก็บ 17.4%
-- ผลการสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) ระบุว่า ขณะนี้มีชาวอังกฤษเพียง 24% เท่านั้นที่คิดว่าสหราชอาณาจักรยังควรอยู่นอกสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นสัดส่วนต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการลงคะแนนเสียงให้ออกจาก EU (Brexit) ในปี 2559
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อังกฤษจะจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกจาก EU อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2563 อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Brexit จะเป็นประเด็นร้อนในการเมืองของอังกฤษ แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้น 16% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง
ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์พุ่งขึ้น 28% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 28% เช่นกันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- กระทรวงสถิติของอินเดียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 4.75% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี และชะลอตัวจากระดับ 4.83% ในเดือนเม.ย.
ดัชนี CPI ดังกล่าวยังคงอยู่ภายในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางอินเดียที่ระดับ 2-6%
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยในวันนี้ (13 มิ.ย.) ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากสถาบันเวสต์แพคและอัตราว่างงานเดือนพ.ค., อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.