ธนาคารกลางยูเครน (NBU) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยธนาคารกลางกำลังประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่รัสเซียโจมตีภาคพลังงานของยูเครน
นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยูเครนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.5% สู่ระดับ 13% ในการประชุมวันนี้ (13 มิ.ย.)
เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและการที่ยูเครนได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศนั้น ทำให้ธนาคารกลางยูเครนกลับมาดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่หลังจากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย. ธนาคารกลางยูเครนได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจลงจากระดับ 3.6% สู่ระดับ 3% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัสเซียพุ่งเป้าโจมตีอุตสาหกรรมพลังงานของยูเครน
นายเดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครนเตือนว่า การโจมตีของรัสเซียส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของยูเครนลดลง 9 กิกะวัตต์ โดยระบุว่าสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ยูเครนเผชิญกับความยากลำบาก
อูเครเนร์โก (Ukrenergo) ซึ่งบริษัทพลังงานแห่งชาติของยูเครนและเป็นผู้ดูแลโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า บริษัทได้ตัดสินใจจำกัดการจ่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากกำลังเผชิญกับการขาดแคลนไฟฟ้าอันเป็นผลมาจากการที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน
รายงานระบุว่า ภาคครัวเรือนในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครนประสบปัญหาไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ประชาชนราว 209,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีชมีฮาลกล่าวว่า ยูเครนสูญเสียกำลังการผลิตไฟฟ้าไปมากกว่า 8 กิกะวัตต์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอันเป็นผลพวงมาจากการถูกรัสเซียโจมตี พร้อมระบุว่า ก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งกับรัสเซียนั้น ระบบพลังงานไฟฟ้าของยูเครนมีกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 50 กิกะวัตต์