นิวซีแลนด์กับจีนลงนามในข้อตกลงด้านการค้าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวันนี้ (13 มิ.ย.) โดยมีประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นหัวข้อหารือด้วย ระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ซึ่งเป็นการเยือนนิวซีแลนด์ในระดับสูงสุดของจีนในรอบ 7 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีคริสโตเฟอร์ ลักซอน ของนิวซีแลนด์ พยายามรักษาสมดุลระหว่างเรื่องสิทธิมนุษยชนและความมั่นคง กับโอกาสทางการค้ามหาศาลจากจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
"นายกฯ หลี่และข้าพเจ้าได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเรา ซึ่งก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ประชาชนในทั้งสองประเทศ โดยมีมูลค่าการค้าสินค้าสองทางเกือบ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (2.343 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)" นายกฯ ลักซอนกล่าว
นายกฯ หลี่ได้รับการต้อนรับจากทั้งนายกฯ ลักซอนและข้าหลวงใหญ่ที่สนามหญ้าหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ นายกฯ หลี่ยังเข้าร่วมพิธีต้อนรับแบบดั้งเดิมของชาวเมารี ก่อนจะเข้าประชุมที่ทำเนียบ
"เรามีความเห็นตรงกันว่า การขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ" นายกฯ หลี่กล่าวหลังจบการประชุม
"จีนพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของนิวซีแลนด์ในการเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้เป็น 2 เท่าภายในทศวรรษหน้า"
นายกฯ หลี่กล่าวเพิ่มเติมว่า จีนจะให้ชาวนิวซีแลนด์สามารถเดินทางมาจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ส่วนทางนิวซีแลนด์ก็จะสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาจีนและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านสถาบันขงจื๊อในประเทศ
อนึ่ง นิวซีแลนด์มีท่าทีแข็งกร้าวกับจีนมากขึ้นในปีนี้ โดยประณามรัฐบาลจีนเรื่องการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐสภานิวซีแลนด์ ทั้งยังกล่าวว่าจีนกำลังเป็นภัยคุกคามความมั่นคงในแปซิฟิกมากขึ้นเรื่อย ๆ
นายกฯ ลักซอนระบุในแถลงการณ์ว่า "ข้าพเจ้าได้พูดคุยกับนายกฯ หลี่เกี่ยวกับหลายประเด็นที่สำคัญต่อชาวนิวซีแลนด์และสะท้อนถึงค่านิยมหลักของเรา รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนและการแทรกแซงจากต่างชาติ"
"นิวซีแลนด์จะยังคงมีส่วนร่วมกับจีนอย่างต่อเนื่องและชัดเจน รวมถึงในประเด็นที่เรามีความเห็นไม่ตรงกัน" นายกฯ ลักซอนกล่าว
นายกฯ ลักซอนกล่าวว่าประเด็นอื่น ๆ ที่หารือกัน ได้แก่เรื่องทะเลจีนใต้ที่ยังเป็นข้อพิพาท โดยจีนมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงเรื่องที่จีนจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership หรือ CPTPP) ตลอดจนการหารือเรื่องสนธิสัญญาด้านกลาโหมและความมั่นคงไตรภาคีระหว่างออสเตรเลีย อังกฤษ และสหรัฐ หรือสนธิสัญญาออคัส (AUKUS)