นายเอดูอาร์โด บาร์โตโลมีโอ ซีอีโอของบริษัทเวล เอสเอ (Vale SA) ของบราซิลและเป็นผู้ผลิตแร่เหล็กรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกเปิดเผยว่า ความต้องการเหล็กกล้าของจีนได้หยุดชะงักลง เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหา แม้ว่าจีนยังคงใช้เหล็กในปริมาณมากก็ตาม
นายบาร์โตโลมีโอแสดงความคิดเห็นในวันพฤหัสบดี (13 มิ.ย.) ระหว่างการประชุมด้านการลงทุนว่า เขามองว่าความต้องการเหล็กกล้าชะลอตัวลงมาสักพักแล้ว เนื่องจากจีนต้องพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เขาคาดว่า จีนจะเปลี่ยนจากการพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างมากในที่สุด
นายบาร์โตโลมีโอกล่าวระหว่างการหารือในที่ประชุม FII Priority ในเมืองริโอ เดอ จาเนโรของบราซิลว่า "ความต้องการที่หยุดชะงักบ่งชี้ว่า จีนกำลังหันพึ่งพาภาคการผลิตแทนภาคอสังหาริมทรัพย์"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดจีนเผชิญกับวิกฤตที่เรื้อรังซึ่งทำให้การก่อสร้างล่าช้าและส่งผลกระทบต่อราคาแร่เหล็กมานานหลายเดือน จีนกำลังดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อจัดการกับสต็อกบ้านที่ยังคงเหลืออยู่ และรักษาเสถียรภาพของตลาดต่าง ๆ ซึ่งอาจสามารถช่วยให้แร่เหล็กฟื้นตัวขึ้นได้
ทั้งนี้ เวลตั้งเป้าที่จะรักษาดีมานด์แร่เหล็กเอาไว้โดยการจัดหาแร่เหล็กให้แก่บรรดาผู้ผลิตเหล็กกล้าทั่วโลก "ผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่" ในตะวันออกกลาง บราซิล และสหรัฐ ในฐานะส่วนหนึ่งของการผลักดันการผลิตเหล็กโดยใช้แร่เหล็กที่มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เวลทำรายได้ในสหรัฐได้มากถึง 283 ล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานบนชายฝั่งอ่าวสหรัฐเพื่อผลิตก้อนแร่เหล็ก
"เรามีการจำหน่ายในสหรัฐน้อยมากในตอนนี้ ดังนั้นเราจะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดที่นั่น" นายบาร์โตโลมีโอกล่าว