นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า ฮ่องกงจะยุติการปิดตลาดหุ้นในช่วงที่เกิดพายุไต้ฝุ่นและพายุลูกใหญ่ โดยการยกเลิกธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมานานหลายสิบปีนั้น จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ก.ย.นี้
นายลีแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การอนุญาตให้ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดทำการซื้อขายในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนนั้น ได้รับการสนับสนุนเป็นวงกว้างและเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นในประเทศอื่น ๆ พร้อมกับกล่าวว่า ฮ่องกงยังมีเวลาอีกมากในการปรับตัวกับช่วงเปลี่ยนผ่านดังกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงดำเนินการสวนทางกับศูนย์กลางการเงินแห่งอื่น ๆ ด้วยการสั่งปิดตลาดหุ้นในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้าย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ล้าหลัง
โดยปกติแล้วฮ่องกงจะเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นประมาณ 5-8 ลูกในแต่ละปี แต่ไม่ใช่พายุทุกลูกจะส่งผลให้ฮ่องกงต้องปิดการจราจรและโรงเรียน
รัฐบาลฮ่องกงได้พยายามอย่างมากที่จะเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการปิดตลาดหุ้นในช่วงเกิดพายุไต้ฝุ่น และร้องขอความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ และธนาคารกลางฮ่องกง แม้ว่าบริษัทโบรกเกอร์รายเล็กจำนวนมากได้ออกมาคัดค้านในเรื่องนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงต้นทุนและความยุ่งยากจากการที่ตลาดยังคงเปิดทำการซื้อขายในช่วงที่เกิดพายุ
นอกจากนี้ การระงับซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงในช่วงพายุยังก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากทำให้กระแสการลงทุนหมุนเวียนผ่านทางโครงการ Stock Connect ซึ่งเชื่อมระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงกับตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นนั้น ต้องหยุดชะงักลงด้วย