บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกแล้วในขณะนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นอินวิเดียปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.51% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร (18 มิ.ย.) ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของอินวิเดียพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าไมโครซอฟท์ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมาร์เก็ตแคปของไมโครซอฟท์ในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 3.32 ล้านล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา อินวิเดียมีมาร์เก็ตแคปทะลุระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และแซงหน้าแอปเปิ้ลขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมาร์เก็ตแคปของอินวิเดียในวันดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 3.012 ล้านล้านดอลลาร์ และมาร์เก็ตแคปของแอปเปิ้ลอยู่ที่ 3.003 ล้านล้านดอลลาร์
นับตั้งแต่ต้นปี 2567 ราคาหุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นแล้วกว่า 170% และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอีก หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 โดยอินวิเดียครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80% สำหรับชิป AI ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล ซึ่งเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูอย่างมากเนื่องจากบริษัทโอเพนเอไอ, ไมโครซอฟท์, อัลฟาเบท, อะเมซอน, เมตา แพลตฟอร์มส์ และบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ต่างก็ต้องการชิป AI ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างโมเดล AI
ในไตรมาส 1 ปีนี้ รายได้จากธุรกิจศูนย์ข้อมูลของอินวิเดียพุ่งขึ้น 427% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 86% ของยอดขายโดยรวมของบริษัท
ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งและกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่น่าจับตาในฐานะผู้ที่อยู่เบื้องหลังกระแสความนิยม AI ซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะแผ่วลง โดยความร้อนแรงดังกล่าวส่งผลให้นายเจนเซน หวง ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอของอินวิเดียมีความมั่งคั่งสุทธิ 1.17 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นบุคคลที่มีความร่ำรวยมากที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ของโลกจากการจัดอันดับของฟอร์บส์