เจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนและสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการการปรับขึ้นอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่นำเข้าจากจีน
นายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีระบุว่า นายวัลดิส ดอมบรอฟสกีส์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้แจ้งให้เขาทราบว่า อาจมีการเจรจาที่เป็นรูปธรรมกับจีนเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้ารถ EV
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า นายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน และนายดอมบรอฟสกีส์ เห็นพ้องที่จะเริ่มการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการสอบสวนเพื่อต่อต้านการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีน
"ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหม่และและเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจในแง่ที่มันยังไม่สามารถเข้าสู่กรอบเวลาการเจรจาที่เป็นรูปธรรมได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา" นายฮาเบ็คแถลงต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในเซี่ยงไฮ้ หลังจากพบปะกับเจ้าหน้าที่จีนในกรุงปักกิ่ง
นายฮาเบ็คเสริมว่า "นี่เป็นเพียงก้าวแรกและยังมีอีกหลายก้าวที่จำเป็น ขณะนี้เรายังห่างไกลจากข้อสรุป แต่อย่างน้อยก็เป็นก้าวแรกที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อนสิ่งที่ผมแนะนำแก่พันธมิตรชาวจีนในวันนี้คือ เราพร้อมสำหรับการเจรจา และผมหวังว่าพวกเขาจะได้รับรู้ถึงข้อความนี้"
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเรียกเก็บภาษีพิเศษต่อรถยนต์ EV ที่มีการนำเข้าจากจีน โดยระบุว่ารถยนต์ดังกล่าวได้รับประโยชน์อย่างมากจากการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน และถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตรถยนต์ EV ในยุโรป
ทั้งนี้ EC ประกาศเรียกเก็บภาษีพิเศษต่อยานยนต์ไฟฟ้าระบบแบตเตอรี (BEV) ที่มีการนำเข้าจากจีน นอกเหนือจากการเรียกเก็บภาษี 10% ในปัจจุบัน โดยบริษัท SAIC จะถูกเรียกเก็บภาษีพิเศษ 38.1% ขณะที่บริษัท Gleely ถูกเรียกเก็บ 20% และบริษัท BYD ถูกเรียกเก็บ 17.4%
อย่างไรก็ดี EC ระบุว่า มาตรการทางภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ก.ค. โดยจะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาแก้ไขปัญหาระหว่าง EC และบริษัทรถยนต์แต่ละแห่ง เพื่อพิจารณาว่าทางบริษัทให้ความร่วมมือกับ EC หรือไม่ ก่อนที่จะบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ EC เริ่มการสอบสวนเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เดือนต.ค.2566