ไนต์ แฟรงก์ (Knight Frank) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังก้าวสู่การเป็นตลาดการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงและกระจายความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
ไนต์ แฟรงก์ เปิดเผยว่า มูลค่าผลผลิตภาคการก่อสร้างทั้งหมดของซาอุดีอาระเบียคาดว่าจะสูงถึง 1.815 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2571 ซึ่งสูงกว่ามูลค่าในปี 2566 เกือบ 30%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตส่วนใหญ่คาดว่าจะมาจากอสังหาริมทรัพย์สำหรับการอยู่อาศัยและโครงการขนาดใหญ่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอื่น ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ Vision 2030 ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจที่พึ่งพาน้ำมัน แผนดังกล่าวยังมีเป้าหมายเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ไนต์ แฟรงก์ เผยผลสำรวจว่า ซาอุดีอาระเบียได้ริเริ่มโครงการต่าง ๆ มูลค่ากว่า 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ที่ได้ริเริ่มยุทธศาสตร์ Vision 2030 เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
ข้อมูลระบุว่า ในปี 2566 เพียงปีเดียวมีการมอบสัญญาก่อสร้างมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงริยาด ซึ่งเป้าหมายของซาอุดีอาระเบียคือการเพิ่มจำนวนประชากรในเมืองนี้ให้เป็น 10 ล้านคนภายในปี 2573
ทั้งนี้ กรุงริยาดได้กลายเป็นจุดสนใจหลักในขณะที่ซาอุดีอาระเบียเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป (World Expo) ในปี 2573 และอาจจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup) ในปี 2577