กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดการซื้อบ้าน ด้วยการปรับลดอัตราส่วนการวางเงินดาวน์ซื้อบ้านและปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง เช่นเดียวกับเมืองขนาดใหญ่แห่งอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์
เทศบาลนครปักกิ่งระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (26 พ.ค.) ว่า ปักกิ่งได้ปรับลดอัตราส่วนเงินดาวน์ลง 10% สู่ระดับขั้นต่ำ 20% สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก และปรับลดอัตราส่วนเงินดาวน์ลงสู่ระดับ 35% สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ในเขตเมือง และ 30% นอกเขตเมือง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การผ่อนคลายข้อกำหนดของกรุงปักกิ่งบ่งชี้ว่า ทั้ง 4 เมืองขนาดใหญ่ของจีนระดับเทียร์ 1 (Tier 1) ต่างดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกัน หลังจากรัฐบาลกลางได้จัดหาเงินจำนวน 3 แสนล้านหยวน (4.1 หมื่นล้านดอลลาร์) ให้กับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อเป็นทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ค้างสต็อก
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น และกว่างโจวได้ปรับลดข้อกำหนดสำหรับการวางเงินดาวน์ และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง เพื่อพยายามฟื้นฟูอุปสงค์ด้านอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลจากบริษัทไชน่า เรียล เอสเตท อินฟอร์เมชัน คอร์ป (CRIC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า กรุงปักกิ่งเผชิญกับอุปทานที่อยู่อาศัยล้นตลาดที่เลวร้ายที่สุดในบรรดาเมืองใหญ่ 30 เมือง
อย่างไรก็ดี ก่อนปักกิ่งประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดในการซื้อบ้านนั้น CRIC คาดการณ์ว่า อสังหาริมทรัพย์ใหม่ค้างสต็อกต้องใช้เวลาถึง 48.9 เดือนจึงจะขายหมด
ข้อมูลของทางการจีนระบุว่า ราคาบ้านใหม่ในเมืองหลวงปรับตัวลง 1.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ
ทั้งนี้ การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กินระยะเวลานานถึง 3 ปี สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ และยังคงส่งผลกระทบแม้กระทั่งเมืองใหญ่ที่สุดของจีน ขณะที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ยังคงไม่แน่ใจว่า มาตรการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนั้นจะเพียงพอหรือไม่