โบอิ้ง โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐประกาศว่า โบอิ้งจะซื้อกิจการบริษัทสปิริต แอโรซิสเตมส์ (Spirit AeroSystems) กลับคืนมา โดยโบอิ้งเชื่อมั่นว่าการซื้อบริษัทสปิริต แอโรซิสเตมส์ซึ่งเป็นผู้ผลิตลำตัวเครื่องบิน จะช่วยปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยและแก้ไขปัญหาด้านคุณภาพ
ทั้งนี้ โบอิ้งตกลงซื้อกิจการสปิริต แอโรซิสเตมส์ ในราคาหุ้นละ 37.25 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.7 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ราคาหุ้นของสปิริต แอโรซิสเตมส์ ปิดตลาดที่ระดับ 32.87 ดอลลาร์ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (28 มิ.ย.) ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และมีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 3.8 พันล้านดอลลาร์
โบอิ้งเปิดเผยในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่าบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการสปิริต แอโรซิสเตมส์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองวิชิต้า รัฐแคนซัส โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังเกิดเหตุแผงประตูบริเวณผนังเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 9 ของสายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์ หลุดกลางอากาศ ซึ่งจุดชนวนให้เกิดวิกฤตครั้งล่าสุดของโบอิ้ง โดยสปิริต แอโรซิสเตมส์ เป็นผู้ผลิตลำตัวเครื่องบิน 737 และชิ้นส่วนอื่นๆ รวมถึงเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์
ย้อนไปในปี 2548 โบอิ้งได้แยกการดำเนินธุรกิจในรัฐแคนซัสและรัฐโอกลาโฮมาออกจากกัน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นบริษัทสปิริต แอโรซิสเตมส์ในปัจจุบัน โดยเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ระบุว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมานั้น โบอิ้งสร้างรายได้ให้กับสปิริต แอโรซิสเตมส์ในสัดส่วน 70% ของรายได้ทั้งหมดของสปิริต แอโรซิสเตมส์ และรายได้ประมาณ 25% มาจากการผลิตชิ้นส่วนให้กับแอร์บัสซึ่งเป็นคู่แข่งของโบอิ้ง
ทั้งนี้ นายเดฟ คาลฮูน ซีอีโอของโบอิ้งกล่าวว่า การนำสปิริต แอโรซิสเตมส์ กลับเข้ามาในองค์กรของโบอิ้งนั้นจะช่วยให้ระบบการผลิตและการทำงานของพนักงานเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน