สมาคมบริษัทซอฟต์แวร์และบริการแห่งประเทศอินเดีย (NASSCOM) คาดการณ์ว่า ภาคเทคโนโลยีของอินเดียจำเป็นต้องมีวิศวกรที่มีทักษะขั้นสูงด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความสามารถด้านอื่น ๆ อีกกว่า 1 ล้านคนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งความต้องการดังกล่าวไม่อาจจะบรรลุได้ หากรัฐบาลไม่ปรับปรุงด้านการศึกษาและการฝึกอบรมในประเทศอย่างจริงจัง
นางสังคีตา กุปตะ รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ NASSCOM ระบุว่า ภาคเทคโนโลยีจำเป็นต้องฝึกอบรมแรงงานที่มีอยู่เดิมกว่าครึ่งเพื่อรับมือกับงานในด้านต่าง ๆ เช่น AI การวิเคราะห์บิ๊กดาตา (big data analytics) และความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยบัณฑิตจบใหม่จะสามารถทำงานด้านเทคโนโลยีขั้นสูงได้เพียง 1 ใน 4 เท่านั้น
นางกุปตะกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ (8 ก.ค.) ว่า "การทำให้แรงงานมีงานทำ นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก อุตสาหกรรมไม่สามารถพึ่งพาการฝึกอบรมเพียงครั้งเดียวได้ จำเป็นต้องเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง เนื่องจากภูมิทัศน์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภาคเทคโนโลยีของอินเดียซึ่งมีมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจ โดยมีการจ้างงานอยู่ที่ราว 5.4 ล้านตำแหน่ง ขณะที่บริการด้านเทคโนโลยีมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 7.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ของอินเดีย
ทั้งนี้ ธุรกิจไอที (IT) อาทิ ทาทา คอนซัลแทนซี เซอร์วิสเซส จำกัด (Tata Consultancy Services Ltd.) กำลังประสบปัญหาในการรับสมัครงาน เนื่องจากทักษะของแรงงานและสิ่งที่พวกเขาต้องการในการทำงานนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งทำให้บริษัทไอทีของอินเดียเสียเปรียบคู่แข่งระดับโลก เช่น บริษัทไอบีเอ็ม (International Business Machines Corp ? IBM) และ แอคเซนเจอร์ (Accenture)