เจพีมอร์แกนระบุว่า มาเลเซียกำลังแจ้งเกิดในฐานะประเทศที่น่าลงทุนด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายราจิฟ บาตรา หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หลักทรัพย์ประจำเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น/จีน) ของเจพีมอร์แกน กล่าวในรายการ "Squawk Box Asia" ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ในวันพุธ (10 ก.ค.) ว่า "ในขณะที่ใคร ๆ ก็พูดถึงศูนย์ข้อมูล มาเลเซียก็ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีในภาพรวม และเปิดโอกาสให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ได้เข้ามาลงทุน"
บรรดานักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนระบุในเอกสารเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่า "การปฏิรูปนโยบาย การลงทุนในศูนย์ข้อมูล และการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน กลายเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจมาเลเซีย ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มปี 2567 ที่เราคาดการณ์ไว้ และกำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าที่เราคาดไว้ด้วย"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า มาเลเซียได้แจ้งเกิดในฐานะมหาอำนาจด้านศูนย์ข้อมูล โดยเมืองยะโฮร์บาห์รูได้รับการยกย่องว่าเป็นตลาดศูนย์ข้อมูลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในดัชนีศูนย์ข้อมูลโลกประจำปี 2567 ของบริษัท ดีซี ไบต์ (DC Byte)
นอกจากนี้ มาเลเซียยังเป็นศูนย์กลางยอดนิยมของบรรดาบริษัทชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ต้องการกระจายการดำเนินงานท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน โดยความชำนาญด้านการประกอบ การทดสอบ และการบรรจุชิป ทำให้มาเลเซียสามารถดึงดูดบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น อินเทล (Intel) เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่างกูเกิล (Google) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) ก็ให้คำมั่นว่าจะทุ่มเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในมาเลเซีย เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI ในประเทศด้วย