ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 61,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและมีนโยบายสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีนั้น ทำให้เขามีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 2.8% ในช่วงเช้าวันนี้ และมีการซื้อขายที่ระดับ 61,420 ดอลลาร์ ณ เวลา 09.55 น.ตามเวลาสิงคโปร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์
นายทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ (13 ก.ค.) โดยนายทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้คนทั่วโลกประณามสถานการณ์รุนแรงทางการเมืองในสหรัฐ นอกจากนี้ เหตุการณ์ลอบสังหารนายทรัมป์ยังสั่นคลอนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในสหรัฐ
นักเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่า ความเห็นอกเห็นใจและความโกรธแค้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบสังหารในครั้งนี้ อาจจะช่วยเพิ่มคะแนนสนับสนุนนายทรัมป์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับการโหวตให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายทรัมป์กล่าวว่าเขาสบายดี และจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ในวันนี้
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโทฯ เพื่อเพิ่มฐานเสียงในหมู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยรายงานระบุว่า นายทรัมป์จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเกี่ยวกับบิตคอยน์ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี
นายทรัมป์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของบิตคอยน์ในการเดินสายหาเสียงมากขึ้น โดยเขาได้พบปะกับนักขุดบิตคอยน์บางคนเมื่อเดือนที่แล้ว และระบุบนโพสต์ในแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ว่าการขุดบิตคอยน์อาจเป็น "ปราการด่านสุดท้ายของเราในการต่อต้าน CBDC (สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง)" และเสริมว่า เขาต้องการให้บิตคอยน์ที่เหลือทั้งหมดถูกผลิตขึ้นในสหรัฐ
ทั้งนี้ ภาคคริปโทเคอร์เรนซีกำลังพยายามสนับสนุนแคนดิเดตปธน.ที่น่าจะให้การสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการบริจาคจำนวนมากให้กับคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองแฟร์เชค (Fairshake) ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันจากภาคอุตสาหกรรมนี้ หลังถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ปราบปราม