บริษัท แอร์บัส เอสอี คาดการณ์ว่า จีนและอินเดียจะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกในช่วง 20 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจำนวนเครื่องบินพาณิชย์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว
แอร์บัสระบุในรายงาน "Global Market Forecast" ว่า จำนวนเครื่องบินทั่วโลกจะอยู่ที่ 48,230 ลำในปี 2586 เพิ่มขึ้นจาก 24,240 ลำในช่วงต้นปีนี้ พร้อมกับคาดการณ์ว่าประมาณ 45% ของการจัดส่งเครื่องบินลำใหม่นั้น จะถูกนำไปใช้เพื่อแทนที่เครื่องบินลำเก่า
นายจูสต์ แวน เดอร์ เฮจ์เดน หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอร์บัส กล่าวว่า "สายการบินของอินเดียกำลังขยายธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการเครื่องบินลำตัวกว้างที่สายการบินต่างชาติหลายแห่งเคยมีประวัติการนำมาให้บริการ" สายการบินหลายแห่งในอินเดียต่างก็สั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่อย่างคึกคัก เนื่องจากอุปสงค์การเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในหมู่ชนชั้นกลาง โดยสายการบินชั้นนำอย่างอินดิโกได้สั่งซื้อเครื่องบินกว่า 1,000 ลำ ขณะที่สายการบินแอร์ อินเดีย ก็กำลังวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนเครื่องบินและเพิ่มการให้บริการทั่วเครือข่ายการบินของบริษัท
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การคาดการณ์ดังกล่าวของแอร์บัสมีขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัท โบอิ้ง โค ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการเพิ่มยอดผลิตเครื่องบิน ขณะที่สายการบินหลายแห่งทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างก็มีมุมมองที่ซบเซาลงต่อแนวโน้มทางธุรกิจในระยะใกล้ของบริษัท
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.) สายการบินดอยซ์ ลุฟต์ฮันซ่า เอจี ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในปีงบการเงิน 2567 เนื่องจากบริษัทเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาตั๋วเครื่องบินที่ปรับตัวลดลง