ทางการอินเดียเปิดเผยเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ว่า อินเดียกำลังเร่งสำรวจช่องทางเพิ่มการส่งออกไปรัสเซีย ไม่ว่าจะด้วยการส่งเสริมการค้าในสกุลเงินรูปี-รูเบิล และผลักดันให้รัสเซียยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี หลังจากที่อินเดียเพิ่งส่งนายกรัฐมนตรีเยือนรัสเซีย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินเดียและรัสเซียเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน โดยได้ค้าขายกันมากขึ้นนับตั้งแต่ที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในช่วงต้นปี 2565 แต่ก็ดูเหมือนจะมาจากฝั่งอินเดียฝ่ายเดียวมากกว่า เช่น จากการที่อินเดียซื้อน้ำมันของรัสเซียซึ่งถูกชาติอื่นมองข้าม
การส่งออกของรัสเซียไปยังอินเดียที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 6.143 หมื่นล้านดอลลาร์จากมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองชาติที่ 6.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณล่าสุดซึ่งสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.
แม้การค้าระหว่างทั้งสองชาติเพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 จากเมื่อปีก่อนหน้า แต่การส่งออกยา เครื่องจักร และสินค้าอื่น ๆ ของอินเดียไปยังรัสเซียแทบจะไม่ทำเงินเลย
นายซูนิล บาร์ธวาล รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของอินเดีย ระบุในการแถลงข่าวว่า รัฐบาลอินเดียได้ขอให้รัสเซียพิจารณาเปลี่ยนแปลงมาตรการกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษีบางส่วน เพื่อเปิดทางให้กับการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของอินเดีย
ในทริปเยือนรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ขีปนาวุธโจมตีโรงพยาบาลเด็กในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ที่มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย ผู้นำอินเดียได้กล่าวกับปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า ความตายของเด็กไร้เดียงสาเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดและน่ากลัว อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ รัสเซียและอินเดียได้ระบุประเด็นสำคัญสำหรับความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น 9 ประการ ตั้งแต่พลังงานนิวเคลียร์ไปจนถึงการแพทย์ และกล่าวว่า พวกเขามีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการค้าทวิภาคีให้มีมูลค่าถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2573