คู่ชิงรองปธน.ของทรัมป์เปิดฉากตราหน้าจีนเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 16, 2024 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจเลือกให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของฟ็อกซ์นิวส์ว่า จีนเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของสหรัฐ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าทีมบริหารของนายทรัมป์และนายแวนซ์มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการแข็งกร้าวกับจีนหากทั้งสองได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

เมื่อนายฌอน แฮนนิตี้ ผู้สื่อข่าวของฟ็อกซ์นิวส์ถามความเห็นเกี่ยวกับสงครามในยูเครน นายแวนซ์กล่าวว่า ทรัมป์จะเจรจากับรัสเซียและยูเครนเพื่อทำให้สงครามครั้งนี้ "ปิดฉากลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ชาวอเมริกาสามารถจดจ่อกับปัญหาที่แท้จริง นั่นคือจีน"

"จีนเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศเรา และเราถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง" นายแวนซ์กล่าวหลังจากได้รับเลือกจากนายทรัมป์ให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายแวนซ์วิพากษ์วิจารณ์จีน โดยก่อนหน้านี้เขาได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเป็นวงกว้าง และสนับสนุนให้นำการผลิตของชาวอเมริกันกลับประเทศเพื่อลดการพึ่งพาจีน

ปธน.โจ ไบเดน และนายทรัมป์ต่างก็พยายามแสดงให้ชาวอเมริกันเห็นถึงความจริงจังในการใช้มาตรการกับจีนในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังใกล้เข้ามา โดยนายทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นวงกว้างหากได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยให้สัญญาว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนทุกประเภทในอัตรา 60% ขณะที่ปธน.ไบเดนเพิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนครั้งใหม่ในอัตรา 100% เมื่อไม่นานมานี้

สำหรับนายแวนซ์ วัย 39 ปีนั้น เคยวิพากษ์วิจารณ์นายทรัมป์อย่างรุนแรงในปี 2559 แต่นับจากนั้นเขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ปกป้องที่แข็งแกร่งที่สุดของนายทรัมป์ โดยเขาเห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของนายทรัมป์ที่ว่าการเลือกตั้งปี 2563 เกิดการฉ้อโกงเป็นวงกว้าง

นายทรัมป์ระบุข้อความบนแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล (Truth Social) ของเขาว่า "ในฐานะรองประธานาธิบดี แวนซ์จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญของเรา จะยืนหยัดเพื่อกองทัพของเรา และจะทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ เพื่อช่วยผมผลักดันภารกิจทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง (MAKE AMERICA GREAT AGAIN)"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ