อะโดบี อะนาไลติกส์ (Adobe Analytics) รายงานเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ว่า ยอดขายออนไลน์วันแรกของมหกรรมลดราคา "ไพรม์เดย์" (Prime Day) ของอะเมซอน (Amazon) ในสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ร้านค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอลมาร์ต (Walmart) และทาร์เก็ต (Target) ต่างงัดโปรโมชันลดกระหน่ำและจัดกิจกรรมชอปปิงตลอดเดือนก.ค.นี้ เพื่อพยายามดึงลูกค้ามาจากไพรม์เดย์ของอะเมซอน
อะเมซอนชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากร้านค้าปลีกเจ้าอื่น ๆ ได้ในช่วงเดือนนี้ โดยครองใจนักชอปด้วยส่วนลดสุดคุ้มในช่วงไพรม์เดย์ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าและเลือกรับสินค้าได้ทั้งแบบวันเดียวถึง หรือจัดส่งด่วนภายในวันเดียวกัน
อะโดบี อะนาไลติกส์ ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ ระบุว่า ยอดซื้อสินค้าต้อนรับช่วงเปิดเทอมในวันอังคารที่ผ่านมา (16 ก.ค.) พุ่งสูงขึ้น 210% เมื่อเทียบกับยอดขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนมิ.ย. 2567
อะโดบีกล่าวเสริมว่า ยอดขายออนไลน์โดยรวมเพิ่มขึ้น 11.7% ในวันที่ 16 ก.ค. ขณะที่ในปี 2566 ยอดขายออนไลน์รวมของทุกร้านค้าปลีกอยู่ที่ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ตลอดระยะเวลา 2 วันของกิจกรรมไพรม์เดย์
ปีนี้ อะเมซอนเปิดให้ลูกค้าเข้าถึงข้อเสนอสุดพิเศษก่อนวันงานจริง เพื่อกระตุ้นยอดขายตั้งแต่ช่วงต้น
ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์นูเมอเรเตอร์ (Numerator) ระบุว่า ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคำสั่งซื้อในอะเมซอนในช่วง 32 ชั่วโมงแรกของไพรม์เดย์อยู่ที่ 60.03 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 56.64 ดอลลาร์ ในปี 2566
อะโดบี ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (D2C) โดยอ้างอิงจากการเข้าชมเว็บไซต์ค้าปลีกในสหรัฐมากกว่า 1 ล้านล้านครั้ง ระบุว่า นักชอปจะได้พบกับดีลสุดคุ้มในวันพุธ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดสูงสุด 23% เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 20% และของเล่น 15%