กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) ว่า หนี้สาธารณะโดยรวมของรัฐบาลกลางสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 35 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยตัวเลขดังกล่าวนับจนถึงวันศุกร์ที่ 26 ก.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วง 7 เดือนที่แล้ว ตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐอยู่เหนือระดับ 34 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนธ.ค. 2566 และในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น หนี้สาธารณะของสหรัฐได้ทำสถิติพุ่งขึ้นทะลุระดับ 33 ล้านล้านดอลลาร์
นางมายา แมคกินีส์ ประธานคณะกรรมการด้านงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ กล่าวว่า "รัฐบาลยังคงเดินหน้ากู้ยืมอย่างต่อเนื่อง ... โดยแม้มีสัญญาณถึงความเสี่ยงและสัญญาณเตือน แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครรับฟังสัญญาณเตือนเหล่านี้ ... เราจำเป็นต้องตระหนักถึงปัญหาหนี้สินอย่างจริงจังและเร่งด่วน ปีที่มีการเลือกตั้งของสหรัฐก็ไม่ควรเป็นข้อยกเว้นในการละความพยายามที่จะป้องกันอันตรายที่สามารถคาดการณ์ได้อย่างชัดเจน โดยปัญหาหนี้สินถือเป็นหนึ่งในอันตรายสำคัญที่เรากำลังเผชิญอยู่"
ข้อมูลจากมูลนิธิปีเตอร์ จี ปีเตอร์สัน (Peter G. Peterson Foundation) องค์กรที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและมุ่งเน้นการจัดการกับความท้าทายด้านการคลังระยะยาวของสหรัฐ ระบุว่า หนี้สาธารณะจำนวน 35.001 ล้านล้านดอลลาร์นั้น หมายความว่าตัวเลขหนี้สินต่อประชากร 1 คนในสหรัฐอยู่ 103,945 ดอลลาร์
"การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งได้แก่ ประชากรรุ่นเบบี้บูมที่มีอายุมากขึ้น ต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพปรับตัวสูงขึ้น และระบบภาษีที่ไม่สามารถนำเงินเข้ามาได้มากเพียงพอต่อการใช้จ่ายในสิ่งที่รัฐบาลได้สัญญาไว้กับประชาชน" มูลนิธิปีเตอร์ จี ปีเตอร์สัน ระบุ