รายงานข้อมูลการโยกย้ายความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเฮนลีย์ประจำปี 2567 (Henley Private Wealth Migration Report 2024) ระบุว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังคงเป็นประเทศอันดับ 1 ที่สามารถดึงดูดมหาเศรษฐีมากที่สุดของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของธนาคารยูบีเอส (UBS) ระบุว่า อังกฤษคาดว่าจะมีจำนวนมหาเศรษฐีลดลง 17% ภายในปี 2571 โดยส่วนใหญ่โยกย้ายถิ่นพำนักไปยัง UAE
"มีทั้งปัจจัยผลักดันและปัจจัยดึงดูดที่ทำให้บรรดาเศรษฐีเลือกที่จะย้ายถิ่นฐานไปดูไบ" คาริม เจธา นักลงทุนระดับภูมิภาคที่ย้ายจากอังกฤษไปยัง UAE ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
"ปัจจัยผลักดันให้คนย้ายไปได้แก่ แนวโน้มในการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นภายใต้รัฐบาลพรรคแรงงาน ตัวอย่างเช่น หนึ่งในคำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงคือการเสนอให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากค่าเทอมของโรงเรียนเอกชน ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 20%" นายเจธาระบุ "ส่วนปัจจัยดึงดูด ได้แก่ มุมมองที่มีต่อดูไบว่ามีความปลอดภัยอย่างมาก รวมถึงการปฏิรูปวีซ่าที่ส่งเสริมการย้ายถิ่นฐาน"
รายงานของเฮนลีย์ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนมิ.ย.ยังพบว่า UAE คาดว่าจะมีการหลั่งไหลเข้ามาของเศรษฐีทั่วโลก 6,700 รายภายในสิ้นปี 2567 ซึ่งสูงกว่าจุดหมายปลายทางอันดับสองอย่างสหรัฐถึง 2 เท่า โดยคาดว่าจะมีมหาเศรษฐีเดินทางเข้าสหรัฐ 3,800 รายในปีนี้
ทั้งนี้ ในขณะที่เศรษฐีที่อพยพไปยัง UAE ส่วนใหญ่มาจากอินเดีย ตะวันออกกลาง รัสเซีย และแอฟริกา แต่ชาวอังกฤษและชาวยุโรปจำนวนมากก็คาดว่าจะย้ายไปยังถิ่นฐานไปยัง UAE ด้วยเช่นกัน