บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เทขายหุ้นในบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ เกือบ 50% ท่ามกลางความประหลาดใจของตลาด เนื่องจากที่ผ่านมาเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือครองหุ้นแอปเปิ้ลมาเป็นเวลานาน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ได้ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ว่า ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/2567 เบิร์กเชียร์ถือครองหุ้นในบริษัทแอปเปิ้ลมูลค่า 8.42 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเบิร์กเชียร์ได้ลดการถือครองหุ้นในบริษัทแอปเปิ้ลลงเกือบ 50%
อย่างไรก็ดี แม้เบิร์กเชียร์ขายหุ้นออกไปในสัดส่วนดังกล่าว แต่แอปเปิ้ลก็ยังคงเป็นหุ้นที่เบิร์กเชียร์ถือครองมากที่สุดนับจนถึงขณะนี้
การขายหุ้นแอปเปิ้ลครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่เบิร์กเชียร์ได้เทขายหุ้นที่ถือครองอยู่ในบริษัทต่าง ๆ ออกมาเป็นวงกว้างในไตรมาส 2 โดยได้มีการขายหุ้นออกไปมากกว่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว ส่งผลให้กระแสเงินสดของเบิร์กเชียร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.77 แสนล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า ในไตรมาส 1/2567 เบิร์กเชียร์ได้ลดการถือครองหุ้นแอปเปิ้ลลง 13% โดยเบิร์กเชียร์ได้แจ้งในการประชุมประจำปีเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาว่า การขายหุ้นแอปเปิ้ลเล็กน้อยในปีนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ในระยะยาว หากรัฐบาลสหรัฐปรับขึ้นภาษีกำไรจากการขายทรัพย์สิน (Capital Gains Tax - CGT)
นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแอปเปิ้ลในวันนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากเบิร์กเชียร์ได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นแอปเปิ้ลลงเกือบ 50%
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอปเปิ้ลเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2567 โดยระบุว่ากำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.40 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.35 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 8.578 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8.453 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ iPhone อยู่ที่ 3.930 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.881 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจที่สำคัญที่สุดของแอปเปิ้ลยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ iPhone โดยรายได้จาก iPhone คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 46% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3